
เผยข้อมูลคำนวณค่าปรับโครงการทำ 'เว็บแอป' 850 ล. สปส. แท้จริงเอกชนควรต้องจ่าย 383 ล้าน ไม่ใช่แค่ 78 ล. เหตุส่งงานล่าช้า 452 วัน ชี้ตามระเบียบจัดซื้อจ้างภาครัฐ เริ่มต้นคิดค่าปรับถัดจากวันครบกำหนดที่ส่งมอบงานตามสัญญา ส่วนวันสิ้นสุดการคิดค่าปรับให้คิดถึงวันที่มีการส่งมอบงานที่ถูกต้องครบถ้วน แต่ที่ผ่านมาการส่งมอบงานทุกครั้งชิ้นงานไม่ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา
จากกรณี เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2568 กรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ มีการประชุมร่วมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวาระการติดตามการบริหารงบประมาณของสำนักงานประกันสังคม โดยมีตัวแทนจาก สปส. ชี้แจงโครงการทำระบบไอทีหลังบ้านของสำนักงานประกันสังคม หรือ เว็บแอป (Web Application) มูลค่า 850 ล้านบาท ระบุว่ามีปัญหาความล่าช้าจากความยากและความซับซ้อนของงาน เพราะมีปริมาณข้อมูลจำนวนมาก ส่วนการตรวจรับนั้นสัญญาสิ้นสุด 20 ธ.ค 2566 แต่ทางเอกชน ขอสงวนสิทธิ์ตามที่ทำสัญญาในช่วงโควิดระบาด โดยคิดค่าปรับร้อยละ 0 เป็นเวลา 193 วัน ณ วันที่ 25 ก.ย 2568 ระยะเวลาการปรับนับตั้งแต่ผิดสัญญา หักด้วยระยะเวลาที่คณะกรรมการตรวจรับใช้ หักด้วยจำนวน 193 วันที่ได้รับการช่วยเหลือในช่วงโควิด สรุปคงเหลือค่าปรับ 92 วัน เฉพาะค่าปรับที่ส่งงานล่าช้าคิดเป็นจำนวนเงิน 78 ล้านกว่าบาท

ล่าสุด แหล่งข่าวจาก สปส. ให้ข้อมูลยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า การคำนวณค่าปรับ 78 ล้านบาท ของ ตัวแทน สปส. ที่แจ้งต่อกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2568 อาจมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากเอกชนมีกำหนดส่งงานให้ประกันสังคมในวันที่ 30 มิ.ย. 2568 แต่เอกชนส่งงานให้ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2567 แต่งานยังไม่สมบูรณ์ประกันสังคมจึงส่งงานคืนวันที่ 15 พ.ค. 2567 ให้กลับไปแก้ไข จากนั้นเอกชนส่งงานครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2567 เมื่อประกันสังคมตรวจงานแล้วพบว่ายังมีข้อบกพร่องจึงส่งงานคืนเอกชนให้ไปแก้ไขอีกครั้ง เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2568
พบว่ามีค่าปรับเกิดขึ้นดังนี้
วันที่ 1-7 ก.ค. 2567 รวม 7 วัน
วันที่ 16-27 พ.ค. 2568 รวม 12 วัน
วันที่ 16 ก.ค.-25 ก.ย. 2568 รวม 73 วัน
รวมทั้งหมด 92 วัน เมื่อคูณด้วยจำนวนค่าปรับ 848,000 จะมีค่า 78,016,000 บาท
แหล่งข่าวระบุอีกว่า อย่างไรก็ตาม ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ของกรมบัญชีกลาง ระบุว่าการคำนวนค่าปรับนั้น จะเริ่มต้นคิดค่าปรับนับถัดจากวันครบกำหนดวันที่ส่งมอบงานตามสัญญา ส่วนวันสิ้นสุดการคิดค่าปรับให้คิดถึงวันที่มีการส่งมอบพัสดุหรือส่งมอบงานที่ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา หรือถึงวันที่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุระบุว่างานแล้วเสร็จ จะพบว่า บริษัทส่งมอบงานครั้ง 1 พบข้อบกพร่อง และมีการส่งมอบงานรอบที่ 2 ก็ยังพบข้อบกพร่อง หมายความว่า การส่งมอบงานทุกครั้ง ชิ้นงานไม่ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา ดังนั้น การที่ประกันสังคมยกเว้นค่าปรับช่วงระยะเวลาที่กรรมการตรวจรับงาน จำนวนมากว่า 311 วัน ในการตรวจรับงานครั้งที่ 1 และจำนวน 49 วัน (27 พ.ค.– 15 ก.ค. 2568) ในการตรวจรับงานครั้งที่ 2 จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ระบุว่าค่าปรับให้คิดถึงแค่วันที่ส่งมอบงานครบถ้วนถูกต้องสมบูรณ์ตามสัญญา
"หากมาคำนวนค่าปรับตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างแบบไม่เอื้อประโยชน์จะพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 – 25 ก.ย. 2568 จะพบว่าจำนวนวันล่าช้าทั้งหมดคือ 452 วัน คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 848,000 x 452 = 383,296,000 บาท" แหล่งข่าวระบุ
ทั้งนี้ ในการคำนวณค่าปรับในการจัดซื้อจัดจ้างมีหลักการนับจำนวนวันหักค่าปรับ โดยจะนับค่าปรับถัดจากวันที่ครบกำหนดการส่งมอบตามสัญญา ไปถึงวันที่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ดำเนินการตรวจรับถูกต้องครบถ้วน และหักระยะเวลาที่คณะกรรมการใช้ในการตรวจรับพัสดุ ยกตัวอย่าง สมมติว่าวันครบกำหนดส่งงาน คือ วันที่ 31 ก.ค. 2567 แต่เอกชนส่งมอบงานวันที่ 20 ส.ค. 2567 และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุดำเนินการตรวจรับพัสดุวันที่ 28 ส.ค. 2567 ดังนั้น จะคิดค่าปรับ 20 วัน คือวันที่ 1-20 ส.ค. 2567
ขณะที่ตัวแทน สปส. ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการติดตามงบประมาณฯ เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2568 ว่าในการปรับได้ผ่านการหารือกับกรมบัญชีกลางแล้ว ได้รับคำตอบมาว่า ประกันสังคมต้องคำนวนค่าปรับตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาและสัญญาที่แก้ไข โดยนับจากวันที่ 21 ธ.ค. 2566 จนถึงวันที่ผู้รับจ้างส่งมอบงานครบถ้วนถูกต้องสัญญา หักด้วยระยะเวลาที่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุใช้ในการตรวจรับพัสดุทุกครั้ง และหักด้วยจำนวนวันที่ได้รับการช่วยเหลือค่าปรับในอัตราร้อยละ 0 สรุป ณ วันที่ 25 ก.ย 2568 ระยะเวลานับตั้งแต่วันที่ผิดสัญญาจนถึงวันนี้ หักด้วยวันที่คณะกรรมการตรวจรับใช้หักด้วยเวลา 193 วันที่ได้ยกเว้นค่าปรับจากอานิสงค์จากการทำสัญญาในช่วงโควิด ค่าปรับ 92 วัน เฉพาะค่าปรับที่ส่งงานล่าช้าคิดเป็นจำนวน 78 ล้านกว่าบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา