
ผู้ว่าฯรฟม.เร่งซ่อมถนน เพื่อคืนพื้นผิวจราจรหน้าวชิรพยาบาลใน 14 วัน ยืนยันจะเยียวยาประชาชนให้ได้มากที่สุด ขณะที่สาเหตุของการยุบตัวยังไม่สรุป แต่คาดว่าเพราะมีมวลน้ำประปาซึมออกมามาก จนดินเปลี่ยนรูปแบบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 25 กันยายน 2568 นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วย กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที - พีแอล และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน PMCSC 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ร่วมแถลงความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยขออภัยผู้ป่วย และประชาชนทั้งที่สัญจรในเส้นทางดังกล่าวและอยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงที่ได้รับความเดือดร้อน
@เร่งซ่อมถนน คืนพื้นผิวจราจรใน 14 วัน
นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าฯ รฟม.กล่าวว่า รฟม.และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา จะพยายามเต็มที่ในการดูแลและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อคืนสภาพพื้นที่ถนนให้กลับคืนสู่สภาพปกติและใช้งานสัญจรได้โดยเร็ว พร้อมรับผิดชอบและเยียวยาดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้น อย่างดีที่สุด โดย ผู้รับจ้าง มีการประกันภัยงานก่อสร้างชื่อ (Contractor All Risks: CAR) สำหรับประกันความเสี่ยง ซึ่งประเมินว่ายังครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยจากนี้จะต้องมีการประเมินค่าเสียหายก่อน ส่วนรฟม. ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาผู้รับผลกระทบแล้ว
โดยจากที่ได้ประชุมร่วมกับ ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที - พีแอล และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน PMCSC 1 รวมถึงผู้ออกแบบ บริษัท AECOM ซึ่งเป็นดีไซเนอร์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกาแล้ว มีข้อสรุปว่า จะเร่งดำเนินการแก้ไขเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย
ระยะที่ 1 เร่งการคืนสภาพผิวจราจรภายใน 14 วัน เพื่อลดผลกระทบด้านจราจรให้ประชาชน
ระยะที่ 2 : เร่งดำเนินการซ่อมแซมโครงสร้างอาคารโดยรอบที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งผู้รับจ้างจะรับผิดชอบดูแลแก้ไขปัญหาให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงจะเยียวยาประชาชน ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างดีที่สุด
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้ รฟม. ตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. เพื่อยืนยันความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้าง และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน โดย รฟม. ได้ดำเนินการตรวจสอบในจุดต่างๆ แล้ว ยังคงเป็นไปตามมาตรฐานการก่อสร้าง
@เปิดไทม์ไลน์เหตุการณ์
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2568 เริ่มประมาณ 05.00 น. มีประชาชนพบเห็นว่าผิวถนนสามเสน บริเวณทางเข้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เริ่มต่างระดับทรุดตัวประมาณ 20 เซนติเมตร แต่รถยังวิ่งได้ ต่อมาเวลา 05.30 น. เริ่มมีน้ำเอ่อขึ้นมาบนผิวถนนที่มีการทรุดตัวเนื่องจากมีท่อประปาแตก ทำให้ตำรวจจราจรเข้ามากั้นพื้นที่ ส่งผลให้เหลือหนึ่งช่องทางจราจร ช่วงนี้ได้มีการประสานกับการประปานครหลวงเข้าแก้ไข สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในช่วงเวลา 07.00 น. พื้นผิวจราจรเริ่มทรุดตัวลงเป็นโพรงและขยายวงกว้างเรื่อยๆ เสาไฟฟ้าถูกดึงลงด้านล่างของถนน ไฟฟ้าเริ่มดับ และเริ่มทรุดลงเรื่อยๆ จนต้องปิดการจราจรตั้งแต่แยกวชิระถึงแยกซังฮี้ ผิวจราจรทรุดตัวลึกกว่า 0.50 เมตร เป็นวงกว้าง รถยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และในเวลาต่อมาผิวจราจรได้ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดหลุมยุบขนาดประมาณ 30 x 30 เมตร ความลึก 20 เมตร หลุมยุบนี้อยู่ติดกับด้านทิศเหนือของโครงสร้างสถานีรถไฟฟ้าวชิรพยาบาล
สำหรับ พื้นที่ดังกล่าวเป็นงานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าวชิรพยาบาล และอุโมงค์ทางวิ่ง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายนอก 6.30 เมตร เป็นอุโมงค์แบบซ้อนกัน บน-ล่าง (Stacked Tunnels) ซึ่งโครงสร้างงานโยธาหลักทั้งหมดแล้วเสร็จมากว่า 3 เดือนแล้ว คงเหลือเพียงงานด้านสถาปัตยกรรม การติดตั้งงานระบบไฟฟ้าเครื่องกล และคืนพื้นผิวจราจรเท่านั้น แต่ภายหลังเกิดเหตุการณ์พบว่า ดินและน้ำจากท่อประปาและท่อระบายน้ำปริมาณมากได้ไหลเข้าไปสะสมอยู่ในโครงสร้างสถานีรถไฟฟ้าวชิรพยาบาล เป็นระยะยาว 50 เมตร รวมถึงอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟฟ้า

กาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
@คาดมีน้ำประปารั่วในชั้นดิน ทำให้เกิดเหตุ
ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจเกิดจากมีน้ำประปารั่วในชั้นดิน ร่วมกับเหตุจากฝนตกหนักต่อเนื่องทุกวัน ทำให้ชั้นดินแข็งระหว่างอุโมงค์ทางวิ่งทั้ง 2 ชั้น เสียเสถียรภาพ และเกิดการทรุดตัวของดินรอบสถานีอย่างรวดเร็วและมากผิดปกติเป็นสถานการณ์พิเศษ จนส่งผลให้ท่อน้ำประปาขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2 เมตร ฉีกขาด มีน้ำรั่วออกมาและมีแรงดันสูงมาก ทำให้ดินข้างเคียงเสียเสถียรสภาพไหลลงเข้าในสถานีรถไฟฟ้า ผ่านช่องว่างระหว่างขอบอุโมงค์กับโครงสร้างสถานีรถไฟฟ้า และด้วยแรงดันมหาศาลทำให้ช่องว่างนี้ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ดินและน้ำจำนวนมากที่ไหลเข้าไปในสถานีและอุโมงค์ทำให้พื้นผิวถนนข้างสถานีทรุดตัวเป็นวงกว้างเกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่ดังกล่าว
ในส่วนของการแก้ไขสถานการณ์ รฟม. ตั้งเป้าหมายที่จะหยุดการเคลื่อนตัวของดินให้ได้เร็วที่สุด เพื่อจำกัดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบไม่ให้ขยายตัวอีก โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ ได้เร่งดำเนินการปิดจุดที่ดินและน้ำรั่วเข้าอุโมงค์รถไฟฟ้าบริเวณผนัง D-Wall สถานีด้านทิศเหนือ โดยใช้วิธีถมถุงทรายลงไปปิดรอยรั่วของอุโมงค์ประมาณ 500 ลูกบาศก์เมตร คาดประมาณ 5 หมื่นลูกและถมหินคลุก แล้วเทคอนกรีตหนา 3-4 เมตร เพื่อป้องกันการไหลของดินเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้าและอุโมงค์ จากนั้นจึงทำการถมทรายขึ้นมาจนถึงระดับดินเดิมแล้วคืนสภาพผิวจราจร
รฟม. ขอให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่า ทุกๆ การดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ของ รฟม. ได้ดำเนินการภายใต้มาตรฐานการก่อสร้าง มีการออกแบบ ควบคุมการก่อสร้าง และความปลอดภัยตามหลักวิศวกรรมทุกขั้นตอน โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รฟม. และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจะร่วมกันตรวจเพื่อหาต้นตอต้นเหตุที่แท้จริง เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ตลอดกว่า 20 ปี รฟม.ได้ดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินด้วยเทคนิคที่เป็นมาตรฐานวิชาการ เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดครั้งแรก และเป็นเหตุการณ์พิเศษ ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงคมนาคม จะตั้งคณะทำงานขึ้นมา มีรฟม. ผู้เชี่ยวชาญจากสภาวิศวกร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันตรวจเพื่อหาต้นเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะกำหนดมาตรการหรือหลักการคำนวณเพิ่มเติมอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
@งานโยธาคืบ 60% ส่วนสัญญาที่เกิดเหตุไปไกลแล้ว 76%
นายกาจผจญ กล่าวว่า ปัจจุบันงานสัญญาที่ 1รถไฟฟ้าสายสีม่วงก่อสร้างงานโยธาคืบหน้าไปแล้ว 76% ส่วนงานระบบอยู่ในช่วงเริ่มติดตั้ง ซึ่งงานเร็วกกว่าสัญญาอื่นประมาณ 10 % โดยทั้งโครงการคืบหน้ารวมกว่า 60% ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ต้องหยุดการก่อสร้างแต่เมื่อสรุปสาเหตุก่อนเริ่มก่อสร้างจะมีการปรับแผนงาน ซึ่งคาดว่าระยะเวลาที่เหลือจะไม่กระทบต่อโครงการโดยรวม ซึ่งงานโยธาจะเสร็จทั้งหมดในช่วงเดือนต.ค. 2570 และจะเปิดให้บริการเดินรถได้ช่วงปลายปี 2571
ส่วนการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้นั้น จากการปรับปรุงรายงานการศึกษาวิเคราะห์โครงการ ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 (PPP) เสนอแนะใช้รูปแบบ PPP Gross Cost จ้างเอกชนเดินรถ โดยวิธีคัดเลือก ไม่เปิดประกวดราคาทั่วไป โดยเป็นการเจรจากับผู้ให้บริการสีม่วงช่วง บางใหญ่-เตาปูน คือ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เนื่องจากข้อจำกัดทางกายภาพการใช้ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า คลองบางไผ่ และการเดินรถต่อเนื่องเพื่อความสะดวกของผู้โดยสาร โดยรอรับนโยบายรัฐบาลกรณีค่าโดยสารรถไฟฟ้า เพื่อนำมาวิเคราะห์และสรุป ก่อนเสนอบอร์ดรฟม.และครม.ต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา