DSI ลงพื้นที่ ‘ขนงพระ’ พบถนนชาวบ้านถูกทำเป็นทางวิ่งเครื่องบิน เตรียมขยายผล

DSI ลงพื้นที่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังได้รับร้องเรียน ปม ถนนสาธารณะถูกทำเป็นทางวิ่งเครื่องบิน พบแปลงเป็นรันเวย์จริง เผยอยู่ใต้การดูแลของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง เตรียมตรวจสอบขยายผลต่อ 

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และพ.ต.ต.นิมิตร พรหมมา รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าพบรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลขนงพระ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการประชุมหารือเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทางสาธารณประโยชน์ที่ถูกใช้เป็นทางวิ่งขึ้นลงของอากาศยานในพื้นที่สนามบินส่วนบุคคล ในบริเวณพื้นที่ตำบลขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

การลงพื้นที่ดังกล่าว สืบเนื่องจาก DSI ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว การขออนุญาตใช้ถนนสาธารณะเป็นทางวิ่ง (Runway) ของอากาศยานในสนามบินขนงพระ โดยปรากฏภาพข่าวว่า ถนนสาธารณะดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลขนงพระ ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นการใช้ถนนสาธารณะ เพื่อเป็นทางวิ่งอากาศยานส่วนบุคคล ยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นทางสาธารณะที่ประชาชนใช้สัญจรร่วมกันมาเป็นเวลานาน ก่อให้เกิดความเดือดร้อนและความไม่ปลอดภัยต่อคนในพื้นที่ ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ดำเนินการ

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าทางสาธารณะดังกล่าว มีความกว้างประมาณ 3.5 เมตร ยาวประมาณ 450 เมตร มีทางวิ่งอากาศยานหรือรันเวย์ตามข้อร้องเรียนจริง รันเวย์มีความกว้างประมาณ 19 เมตร ยาวประมาณ 1,000 เมตร แต่จากการประชุมร่วมกันได้ข้อเท็จจริงว่าพื้นที่บริเวณทางวิ่งของอากาศยานในสนามบินขนงพระ ตามข้อร้องเรียนอยู่ในความดูแลของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลขนงพระ ดังนั้นการขออนุญาตใช้พื้นที่ดังกล่าว จึงเป็นอำนาจของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบิน ซึ่งกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลต่อไป

DSI โดยพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น หากประชาชนพบเห็นการบุกรุกทำลายป่า สามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าวได้ที่กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th หรือ สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ)