
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เผย ความคืบหน้าคดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา ฐานความผิดทางอาญา อั้งยี่-ฟอกเงิน คืบหน้า 60-70 % สอบพยานลอตแรกไปแล้วกว่า 90 ปาก ระบุ พฤติการณ์รับ-โอนเงิน ช่วงเลือกสว. 30 จังหวัด ชี้ มีมูล เตรียมเรียกสอบพยานลอตสอง ผู้ช่วย-ผู้เชี่ยวชาญ-ที่ปรึกษา ประจำตัว สว. พบ เส้นเงินโยง คณะบุคคล คาด 1 เดือน ออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีคำร้องการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) หรือ คดีฮั้วเลือกสว. ฐานการกระทำความผิดทางอาญา อั้งยี่ ฟอกเงิน โดยได้เชิญ นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และพนักงานอัยการ สำนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวนพยาน ว่า ได้รับความมั่นใจว่า จากผู้แทน ปปง. ว่า กรณีดังกล่าว พฤติการณ์การเตรียมเงิน การจ่ายเงินให้กับหัวคะแนน หรือ โหวตเตอร์ ที่สนับสนุนการกระทำความผิดในครั้งนี้ ถือเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ตามนิยามของกฎหมาย ปปง. หรือไม่ อย่างไร ซึ่งได้รับความชัดเจนจาก ปปง.
พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า นอกจากนี้ในการซักถามในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า มีการจ่ายเงินในหลายพื้นที่ ซึ่งการสอบสวนหลังจากได้รับการรายงานในขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้นที่จะรับฟังได้ว่ามีมูล เชื่อว่ามีการกระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาการกระทำความผิดอั้งยี่ และการฟอกเงิน การประชุมในวันนี้ยังมีการกำหนดกรอบการทำงานว่าจะมีการสอบพยานอีกกี่ปาก หลังจากนั้นจะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
“ตอนนี้ได้สอบสวนคืบหน้าไปแล้วกว่า 60-70% มีการเรียกพยานไปแล้ว 90 ปาก หลังจากนั้นจะเป็นการพิจารณาว่า ผู้ถูกกล่าวหาคนใจจะถูกดำเนินคดีในทางอาญาก็จะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในโอกาสต่อไป”พ.ต.ต.ยุทธนากล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พยานที่เรียกมา 90 ปาก เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเงินในหลายจังหวัดใช่หรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า มีด้วย มีในกลุ่มที่เข้าไปรู้เห็นการวางแผน การทำหน้าที่ต่าง ๆ ที่รู้เห็นด้วยตัวเอง และพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการเงิน
“พยานกลุ่มที่เรียกสอบมี 7-8 คน แต่พนักงานสอบสวนดูจากพยานหลักฐานที่เป็นเส้นทางการเงิน รายการเดินบัญชีเป็นหลัก เพราะการรับโอนเงิน ส่วนใหญ่พยานมักจะอ้างว่า เป็นการโอนเงินตามมูลหนี้ต่างๆ ซึ่งต้องรับฟังอีกทีว่า รับฟังได้มากน้อยแค่ไหน”พ.ต.ต.ยุทธนากล่าว
เมื่อถามว่า เส้นเงินโยงไปถึงนักการเมืองท้องถิ่นมีหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า มี แต่ลงรายละเอียดไม่ได้ ยังไม่ถึงกรรมการบริหารพรรคการเมือง แต่ถึงในระดับในกลุ่มเดียวกัน ใกล้ชิดกรรมการบริหารพรรคการเมือง
พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า สำหรับการเรียกพยานในลอตถัดไปจะเป็นการสอบถามในประเด็นนอกเหนือจากเส้นทางการเงิน เช่น พยานในส่วนที่เป็นผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ หรือที่ปรึกษาที่ได้รับการแต่งตั้งประจำตัว สว. เพื่อพิสูจน์ว่า มีที่มาอย่างไร เนื่องจากมีเงินบางส่วนที่โอนกลับไปที่กลุ่มคณะบุคคลบางกลุ่ม
เมื่อถามว่า เมื่อสอบพยานลอตสองเสร็จจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาได้เลยหรือไม่ พ.ต.อ.ยุทธนากล่าวว่า คิดว่าจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาเลย คาดว่าประมาณ 1 เดือนจะเห็นความคืบหน้าการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา
พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวถึงพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาที่เข้าข่ายกระทำความผิดอั้งยี่ ฟอกเงิน ว่า ถ้าเป็นการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เป็นการรับโอนเงิน ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ส่วนความเป็นอั้งยี่ คือ การจัดตั้งเป็นคณะบุคคล เป็นสมาชิกของคณะบุคคล ปกปิดวิธีการดำเนินการ เพื่อกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมายในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนจากการรวบรวมพยานหลักฐานรับฟังได้พอสมควรว่า มีการจัดตั้งขึ้นมา มีการแบ่งหน้าที่กัน
พ.ต.ต.ยุทธนาได้ตอบคำถามถึงความคืบหน้าการส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปร่วมเป็นพนักงานสืบสวนไต่สวน คณะที่ 26 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คดีฮั้วเลือกสว. ในส่วนของการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 ที่จะสรุปสำนวนในวันนี้ (17 ก.ค.68) ว่า หลักการกระทำความผิดคดีความผิดตาม พ.ร.ป.สว. ฯ กับ อั้งยี่และฟอกเงิน ไม่ยึดโยงกัน แต่เอื้อและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไม่ได้หมายความว่า ถ้าโดยกกต.ดำเนินคดีทั้งหมด ต้องโดนดำเนินคดีอั้งยี่ฟอกเงินทั้งหมดด้วย ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า ส่วนการสรุปสำนวนคดีทางอาญาจะทำให้เร็วที่สุด ต้องดูว่า เส้นเงินสมบูรณ์หรือยัง พยานหลักฐานในส่วนของความผิดอั้งยี่และฟอกเงิน ซึ่งมีการโอนเงินกระจายเป็นกลุ่มจังหวัด ทั้งหมดประมาณ 30 จังหวัด ขณะที่การกันไว้เป็นพยานเป็นไปตามเงื่อนไข ต้องไม่เป็นบุคคลสำคัญ ให้การเป็นประโยชน์ และต้องมั่นใจได้ว่า พยานจะเบิกความเป็นประโยชน์กับคดี เอาผิดตัวการสำคัญได้
“พฤติการณ์แวดล้อมจะบอก เช่น ช่วงเลือกตั้ง ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมีการรับโอนเงินก้อนใหญ่ๆและมีเงินกระจายไปยังบุคคลอื่นๆ หลายสิบเส้น และบุคคลเหล่านั้นก็ไปสมัครเลือกสว.ในช่วงนั้น และเลือกคนที่อยู่ในโพย ไม่ได้ดูเส้นเงินอย่างเดียว”พ.ต.ต.ยุทธนากล่าว
ด้านนายวิทยา กล่าวเสริมว่า วันนี้ได้มาให้ความชัดเจนในเรื่องของพ.ร.บ.ป.ป.ง.พ.ศ.2542 และองค์ประกอบมูลฐานความผิดฟอกเงินมีอะไรบ้าง รวมถึงทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งมีสามส่วน ส่วนแรก คือ ทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด ส่วนที่สอง ทรัพย์ที่ได้มาสนับสนุนการกระทำความผิด และส่วนที่สาม คนที่ไปเกี่ยวข้องกับทรัพย์ เป็นความผิดอาญาและฟอกเงิน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา