
คณะกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา ‘อดีตผู้บริหาร กสทช.-พวก’ จัดซื้อจัดจ้าง ‘โครงการ ERP-โครงการ HR’ วงเงิน 158 ล้านบาท สูงเกินจริง-กีดกันการแข่งขัน
......................................
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการไต่สวน ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติแจ้งข้อกล่าวหานายเนติพงษ์ ตลับนาค เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) กับพวก ฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือฐานกระทำผิดต่อหน้าที่หรือกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการ
กรณีการจัดซื้อจัดจ้างฯ 2 โครงการ งบประมาณรวม 158 ล้านบาท เมื่อปี 2555 ได้แก่ 1.โครงการจ้างพัฒนาระบบบริหารการเงินการบัญชี ระบบการจัดการรายได้ และระบบบริหารสินทรัพย์และการพัสดุ (โครงการ ERP) งบประมาณ 98 ล้านบาท และ 2.โครงการจ้างพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (โครงการ HR) งบประมาณ 60 ล้านบาท โดยมีลักษณะเป็นการแบ่งจ้าง โดยลดวงเงินที่จะจ้างในครั้งเดียวกัน เพื่อให้อำนาจในการสั่งจ้างเปลี่ยนแปลงไป
และกำหนดเงื่อนไข เพื่อช่วยเหลือให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ให้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับสำนักงาน กสทช. ดำเนินการทั้ง 2 โครงการ โดยไม่เป็นธรรมหรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม โดยมีเจตนามุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม เพื่อแสวงหาประโยชน์มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และจัดซื้อจัดจ้างสูงเกินจริง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ สำนักงาน กสทช.
“ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุม ครั้งที่ 71/2566 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2566 ได้มีมติมอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้น เพื่อให้ดำเนินการโต่สวน กรณีกล่าวหา นายเนติพงษ์ ตลับนาค เมื่อครั้งรักษาการในตำแหน่งรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงาน กสทช. กับพวก ฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือฐานกระทำความผิดต่อหน้าที่หรือกระทำควทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีทุจริตโครงการจ้างพัฒนาระบบบริหารการเงินการบัญชี ระบบการจัดการรายได้ และระบบสินทรัพย์และการพัสดุ
และการจ้างพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ อันมีลักษณะแบ่งซื้อแบ่งจ้างไม่เป็นไปตามระเบียบและประกาศ กำหนดราคากลางสูงเกินจริง และกระทำการโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อประโยชน์ในการเสนอราคาแก่ผู้หนึ่งผู้ใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยมิชอบ
ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุม ครั้งที่ 119/1567 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2567 ได้มีมติปรับเปลี่ยนรูปแบบการไต่สวนจากคณะไต่สวนเบื้องต้นเป็นการแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนกรณีดังกล่าว
ในการนี้ คณะกรรมการไต่สวน ได้ทำการไต่สวนแล้วเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหาว่ามีมูลความผิด จึงแจ้งข้อกล่าวหาและรายละเอียดให้ท่านทราบ ตามมาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ประกอบข้อ 72 ของระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ.2561” ส่วนหนึ่งของหนังสือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิคัดค้านคณะกรรมการไต่สวน คดีหมายเลขดำที่ 01-2-0602/2566 ลงวันที่ 19 พ.ค.2568 ระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาฯ ได้มีการพาดพิงถึงผู้บริหารและอดีตผู้บริหาร กสทช. หลายคน ได้แก่ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธาน กสทช. ,พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งข้าราชการทหารสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ช่วยราชการสำนักงาน กสทช. และปฏิบัติหน้าที่เลขานุการประธาน กสทช. และเป็นอนุกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งปัจจุบัน พล.อ.ท.ธนพันธุ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช.
นายฐากร ตันฑสิทธิ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ,นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ กสทช. ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ,นายฉันทพัทธ์ ขำโคกกรวด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพัสดุและทรัพย์สิน และคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ โครงการ ERP ประกอบด้วย นางอัจฉรา ปัณยวณิช ,นายชาญวุฒิ อำนวยสิน ,นายศุรวีร์ ไปรเวทย์ ,น.ส.ยุพา นาเจริญ และโครงการ HR ประกอบด้วย นายเธียรทวี สุทธินนท์ ,นางพิณทิพย์ พลอยแสง ,น.ส.ลลิตา อันยะวรรธนะ และ น.ส.ปณิดา การดี
สำหรับคดีนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนให้บุคคลที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเข้ามาชี้แจงกับคณะกรรมการไต่สวน และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการลงมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด นายเนติพงษ์ ตลับนาค และผู้ที่ถูกพาดพิงในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาฯ จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา