รัฐบาลบังกลาเทศตั้งกรรมการสอบเหตุอดีต ปธน.ขึ้นเที่ยวบินมาไทยตอนตีสามพร้อมลูกชาย-น้องเขย คาดหนีคดีฆาตกรรมหลังปรากฎชื่อเป็นผู้ต้องหา ด้าน จนท.สนามบินแจงให้ออกนอกประเทศได้เพราะไม่มีคำสั่งศาล เผยเจ้าตัวต้องการมาไทยเพื่อรักษาตัวทางการแพทย์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา นายอับดุล ฮาหมิด อดีตประธานาธิบดีบังกลาเทศในวัย 81 ปี ซึ่งครองตำแหน่งตั้งแต่ปี 2556-2566 ได้เดินทางออกจากประเทศบังกลาเทศในช่วงเวลาประมาณ 03.05 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยเดินทางมายังประเทศไทยด้วยเครื่องบินสายการบินไทยหมายเลข TG 340 ก่อนที่จะมาถึงกรุงเทพ ประเทศไทย ในช่วงเวลา 6.15 น.ตามเวลาที่ประเทศไทย
โดยนอกเหนือจากอดีตประธานาธิบดีแล้ว บุคคลที่ร่วมเดินทางมาด้วยก็ยังมีนายริยาด อาเหม็ด ลูกชาย และนายนอชาด ข่าน น้องเขย ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ของวิทยาลัยการแพทย์อับดุลฮามิด
สำนักข่าวธากาโพสต์ของบังกลาเทศรายงานข่าวสภาพร่างกายของอดีตประธานาธิบดีบังกลาเทศ ซึ่งปัจจุบันแม้จะนั่งรถเข็น แต่ก็ไมได้ถูกคำสั่งให้จำกัดการเดินทางแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าสนามบินกรุงธากาให้สัมภาษณ์ว่า ตามมาตรา 34 และ 102 ของรัฐธรรมนูญบังกลาเทศ พลเมืองบังกลาเทศไม่สามารถถูกขัดขวางไม่ให้เดินทางได้ เว้นแต่จะมีคำสั่งจากศาล เราไม่ได้รับคําสั่งใด ๆ ที่จะห้ามเขาออกนอกประเทศ
“อดีตประธานาธิบดีเดินทางไปรักษาตัวทางการแพทย์ที่ประเทศไทย เราอนุญาตให้เขาเดินทางเนื่องจากไม่มีข้อจํากัดของศาลหรือการลงโทษ จากหน่วยงานใด ๆ ต่อเขา” เจ้าหน้าที่สนามบินกล่าว
อย่างไรก็ตามการเดินทางออกนอกประเทศกลางดึก ถูกวิจารณ์ว่าเป็นความพยายามที่จะหนีการพิจารณาคดี หลังจากเมื่อเดือน ส.ค. 2566 อดีตประธานาธิบดีฮาหมิดต้องถูกถอดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเขาไปมีชื่ออยู่ในคดีฆาตกรรมที่เมืองกิสโชเรกานจ์
ส่วนแหล่งข่าวของตํารวจให้ข้อมูลว่า นายฮามิดมาถึงสนามบินประมาณ 23:15 น. ของวันที่ 7 พ.ค. และทําพิธีการที่จําเป็นทั้งหมดก่อนเดินทางออกนอกประเทศ
ทั้งนี้หลังจากการเดินทางออกนอกประเทศของนายฮามิด รัฐบาลชั่วคราวของประเทศบังกลาเทศได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนพิเศษแล้ว โดยมีกำหนดส่งผลการสอบสวนภายใน 15 วัน ซึ่งระหว่างนี้เจ้าหน้าที่จำนวนอย่างน้อยสามนายถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว ได้แก่ผู้กํากับการตรวจคนเข้าเมืองสนามบิน เจ้าหน้าที่สาขาพิเศษ และเจ้าหน้าที่สืบสวนในคดีฆาตกรรมที่นายฮามิดมีส่วนเกี่ยวข้อง
ขณะที่สำนักข่าว Netra News ของบังกลาเทศรายงานข่าวว่าหน่วยข่าวกรองความมั่นคงแห่งชาติ (NSI) และอธิบดีหน่วยข่าวกรองกองกําลัง (DGFI) มีส่วนช่วยเหลือทำให้นายฮาหมิดออกนอกประเทศไปได้
เรียบเรียงจาก:https://thedailyguardian.com/asia/ex-bangladesh-president-escapes-to-thailand-in-lungi-at-3-am/,https://www.firstpost.com/explainers/how-ex-bangladesh-president-fled-to-thailand-in-a-lungi-at-3-am-13888358.html