
ป.ป.ช.รวบอดีตปลัด อบต.รอบเมือง จ.ร้อยเอ็ด คาสี่แยก เผยพฤติการณ์ทุจริตเบิกค่ารถ-น้ำมันไปดูงานช่วงปี 53 ก่อนโดนศาลฯออกหมายจับช่วงเดือน ก.พ.แล้วจึงหนีคดี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าวันที่ 28 เม.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกเอกสารข่าวแจกกรณีเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 และงานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ประสานกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตํารวจภูธรภาค 4 ร่วมทำการสืบสวนจับกุมนายพงษ์พันธ์ วงศ์อามาตย์ อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลรอบเมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยจับกุมได้ที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 232 บริเวณแยกไฟแดงวาปีปทุม ตำบลดงลาน อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด มุ่งหน้าไปอำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด
สำหรับพฤติการณ์ของนายพงษ์พันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพบว่าช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 องค์การบริหารส่วนตำบลรอบเมือง ได้ประกาศสอบราคาจ้างเหมา รถโดยสารปรับอากาศ ชั้น 1 ขนาด 50 ที่นั่ง พร้อมน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 8 คัน เพื่อเดินทางไปศึกษาดูงานชุมชนเข้มแข็งที่จังหวัดระยอง แต่ปรากฏว่ามีรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการเดินทางไปศึกษาดูงานจังหวัดระยอง จำนวนเพียง 7 คัน แต่มีการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างจำนวน 8 คัน เพื่อนำเงินส่วนต่างที่ต้องจ่ายเป็นค่าจ้างเหมารถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 1 คัน ไปใช้เป็นค่าอาหารสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่จังหวัดระยอง ทั้งที่มีการเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว
ตัวนายพงศ์พันธ์ได้ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานตามโครงการดังกล่าว ทราบข้อเท็จจริงแล้วว่า รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการเดินทางไปศึกษาดูงานจังหวัดระยอง มีจำนวนเพียง 7 คัน และทราบข้อเท็จจริงว่าการเบิกจ่ายค่าจ้างเหมารถโดยสารปรับอากาศเกินไปจำนวน 1 คันดังกล่าว ได้กระทำไปเพื่อนำเงินส่วนต่างที่ต้องจ่ายเป็นค่าจ้างเหมารถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 1 คัน ไปใช้เป็นค่าอาหารสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่จังหวัดระยอง
ซึ่งนายพงษ์พันธ์ ในฐานะปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล มีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันกับผู้บริหารท้องถิ่น ในการควบคุมงบประมาณรายจ่ายและเงินนอกงบประมาณ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หรือหนังสือสั่งการกระทรวงมหาดไทย ในการควบคุม การรับ และการเบิกจ่าย การตรวจสอบเอกสารการรับจ่ายเงิน การขอเบิกเงิน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 5 ประกอบข้อ 33 (1)(3)
เมื่อทราบข้อเท็จจริงแล้ว นายพงษ์พันธ์ยังได้ลงนามในฎีกาเบิกเงินตามงบประมาณรายจ่าย เลขที่คลังรับ 519/2553 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2553 โดยเสนอความเห็นต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบลรอบเมือง ว่าเห็นควรอนุมัติให้เบิกจ่ายได้ และต่อมานายกองค์การบริหารส่วนตำบลรอบเมือง ได้อนุมัติให้มีการเบิกจ่ายค่าจ้างเหมารถโดยสารปรับอากาศดังกล่าว จำนวน 8 คัน เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลรอบเมืองได้รับความเสียหาย
พฤติการณ์ดังกล่าวจึงทำให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ออกหมายจับนายพงษ์พันธ์ โดยเป็นหมายจับที่ 6/2568 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้น เป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจ ในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157
สำหรับบรรยากาศการจับกุม เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลตามหมายจับ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลดงลาน อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้วางแผนลงพื้นที่สืบสวนและติดตามบุคคลตามหมายจับรายดังกล่าว เฝ้าสังเกตการณ์และพิสูจน์ทราบพบว่านายพงษ์พันธ์ วงศ์อามาตย์ กำลังขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กพ 3896 ขอนแก่น ออกมาจากบ้านเช่าในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลดงลาน อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้ทำการเฝ้าติดตามสะกดรอยไป จนถึงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 232 บริเวณแยกไฟแดงวาปีปทุม ตำบลดงลาน อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด มุ่งหน้าไปอำเภอเมืองสรวง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ และออกคำสั่งให้นายพงษ์พันธ์ฯ ผู้ต้องหาหยุดรถและลงจากรถยนต์ โดยเข้าจับกุมตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ให้นายพงษ์พันธ์ วงศ์อามาตย์ ดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว และรับว่าเป็นบุคคล คนเดียวกันกับหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัว พร้อมกับได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ให้ทราบ จากนั้นจึงได้นำตัวมาทำบันทึกจับกุมที่งานสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด เพื่อลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และได้ควบคุมตัวไปส่งให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อไป
อนึ่งการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 และนายอนุชา พึ่งบุญศรี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา