
อนุ กก.กลั่นกลองข้อเท็จจริงการทรมานฯ แจงเริ่มผ่าชันสูตรศพ ผู้กำกับโจ้ แล้ว เผยขั้นตอนสอบคดี จะต้องให้ทางพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นดำเนินการ ให้อัยการกำกับดูแล เมื่อได้ผลชันสูตร อัยการจะนำเสนอศาลให้เปิดการไต่สวนเหตุเสียชีวิตคาคุกต่อไป-รองผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยเบื้องต้นไม่พบแผลถูกทำร้าย-ให้น้ำหนักทำด้วยตนเอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า บรรยากาศที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ญาติของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ จำเลยในคดีฆาตกรรมผู้ต้องหาคดียาเสพติด เดินทางมารับศพ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ โดยมีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรพลิกศพ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ก่อนประชุมสรุปผลที่อาคาร 2 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.โชคชัย สิทธิผลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะรองประธานอนุกรรมการ เปิดเผยว่า เบื้องต้นการผ่าชันสูตรพลิกศพ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ จะเริ่มต้นในเวลา 09.00 น.
ขณะเดียวกัน วันนี้ทางอนุกรรมการจะได้ประชุมเพื่อหารือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ได้มอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่เจ้าหน้าที่ควบคุมเรือนจำทำร้ายร่างกายว่า จะเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายและซ้อมทรมานหรือไม่ ก่อนจะวางแนวทางว่าหลังจากนี้จะดำเนินการกำกับดูแลการสอบสวนอย่างไร แต่แนวทางเบื้องต้น จะให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เป็นผู้ดำเนินการและมีเจ้าหน้าที่อัยการเข้าไปติดตามกำกับดูแลการสอบสวน ซึ่งหากพบว่ามีการทำความผิดที่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ทางพนักงานสอบสวนจะเข้าไปสอบสวนกรณีดังกล่าว แต่ทางเรือนจำไม่อนุญาตให้เข้าไปในการสอบสวน ก็จะมีการหารือในการประชุมวันนี้ด้วย โดยยืนยันว่า คณะอนุกรรมการจะดำเนินการติดตามผลเพื่อเยียวยาและให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียหายอย่างแน่นอน สำหรับกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ นั้น เมื่อได้ผลชันสูตรแล้ว ทางพนักงานอัยการจะทำสำนวนการเสียชีวิตและนำเสนอต่อศาล เพื่อให้ศาลเปิดการไต่สวนการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ต่อไป
ในเวลาต่อมา คณะอนุกรรมการดังกล่าวได้เดินทางมาประชุมร่วมกัน โดยมี ผศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้เข้าร่วมประชุม ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะได้ร่วมกันติดตามการผ่าชันสูตร พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ด้วย
สำหรับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยมีองค์คณะได้แก่
1.อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หรือผู้แทน ประธานอนุกรรมการ
2.อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หรือผู้แทน รองประธานอนุกรรมการ
3.ผู้ช่วยศาสตราจารย์รณกรณ์ บุญมี อนุกรรมการ
4.นายสมชาย หอมลออ อนุกรรมการ
5.ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมที่รับผิดชอบท้องที่ที่เกิดเหตุ อนุกรรมการ
6.ผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อนุกรรมการ
7.ผู้แทนกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อนุกรรมการ
8.ผู้แทนกรมการปกครอง อนุกรรมการ
9.ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ อนุกรรมการ
10.ผู้แทนสภาทนายความ อนุกรรมการ
11.ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย อนุกรรมการและเลขานุการ
12.ผู้อำนวยการกองนิติวิทยาศาสตร์บริการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อนุกรรมการและเลขานุการร่วม
13.เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายที่ได้รับมอบหมาย อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
โดยคณะอนุกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
1.พิจารณากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ติดตาม และตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำทรมาน การกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือการกระทำให้บุคคลสูญหาย รวมทั้งกรณีผู้ถูกควบคุมตัวถึงแก่ความตาย
2.แสวงหาข้อมูล ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน หรือเชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น หรือให้จัดส่งเอกสารหรือพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้คณะอนุกรรมการฯ
3.ดำเนินการ มอบหมาย หรือประสานบุคคลหรือหน่วยงานเพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ
4.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมาย
ต่อมา ผศ.นพ.วรสีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ให้น้ำหนักเป็นการผูกคอเสียชีวิตมากกว่า เพราะไม่พบบาดแผลที่มีความชัดเจนถึงการถูกทำร้าย พบบาดแผลฟกช้ำบริเวณสะโพกและซึ่งเป็นลักษณะของรอยช้ำเก่า แต่จะมีการตรวจเนื้อเยื่ออีกทีว่าเกิดขึ้นในช่วงใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ญาติที่ไปพบศพระบุว่ามีเลือดอยู่บริเวณที่ผู้ตายเสียชีวิตมีสาเหตุจากอะไร
ผศ.นพ.วรสีร์ ตอบว่า ได้สอบถามจากคณะชันสูตรว่ามีความเป็นไปได้ 2 กรณี 1.เลือดที่ออกมาหลังจากเสียชีวิต 2.เลือดจากบาดแผล จึงคิดว่าไม่ใช่เลือดแต่น่าจะเป็นของเหลวที่ออกมาจากร่างกายหลังเสียชีวิต ตอนนี้เก็บตัวอย่างไปตรวจแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการผูกคอเสียชีวิตเป็นการกระทำด้วยตนเองหรือผู้อื่น
ผศ.นพ.วรสีร์ ตอบว่า ให้น้ำหนักไปทางกระทำด้วยตนเองมากกว่า เพราะลักษณะของแรงที่เกิดขึ้น ไม่พบรอยช้ำบริเวณเนื้อเยื่อใต้รอยรัด ไม่พบการบาดเจ็บของกระดูกกล่องเสียง จึงให้เหตุผลว่าแรงที่มากระทำไม่เยอะมากจึงสอดคล้องกับการผูกคอเสียชีวิต ไม่ใช่จากการรัดคอ
นอกจากนี้ผศ.นพ.วรสีร์ กล่าวอีกว่า การผ่าชันสูตรพลิกศพวันนี้ ทางครอบครัว และญาติ รวมถึงทนายความ มาร่วมสังเกตุการณ์ ตั้งแต่ช่วงเช้ามีรายงานว่าหลังจากผ่าชันสูตรเสร็จสิ้นแล้ว ทางญาติ จะรอรับร่าง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ออกจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งไปชันสูตรพลิกศพ อีกหนึ่งแห่งเพื่อจะนำผลการผ่าชันสูตรของทั้งสองที่มาเทียบเคียงกันด้วย พร้อมยืนยันว่ายังไม่เผาศพและจะเก็บเอาไว้จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม
ด้านนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กล่าวว่า หลังจากนี้ทางครอบครัวร่างของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชของ รพ.จุฬาลงกรณ์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลที่ได้รับในวันนี้สำหรับการผ่าศพ ซึ่งวันนี้ทางครอบครัวก็พอใจ แต่ต้องดูผลรายละเอียดต่างๆ จากแพทย์อีกครั้งหนึ่ง
ที่สน.ประชาชื่น ภายหลังพล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น.และคณะ เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อเร่งรัดติดตามคดีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ที่อาคาร 2 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
พล.ต.ต.เจษฎา เปิดเผยถึงความคืบหน้า ว่า การประชุมติดตามเร่งรัดคดีทั้งในส่วนคดีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เสียชีวิตและถูกทำร้ายร่างกาย โดยคดีการเสียชีวิตนั้นเบื้องต้นเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุมาครบแล้ว รวมถึงกล้องวงจรปิดทั้งหมดหลังจากนี้จะตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะผ้าขนหนูที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งความยาวผ้าขนหนูตอนนี้ยังระบุไม่ได้ เนื่องจากพบว่าเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ตัดออกขณะเข้าไปช่วยเหลือและเข้าไปด้านในห้องขังเดี่ยว
พล.ต.ต.เจษฎา กล่าวว่า ในส่วนคดีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ถูกทำร้ายร่างกายมอบอำนาจให้ทนายความมาแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมาหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่มีการดำเนินการมาอย่างตลอด และได้ข้อมูลใบความเห็นแพทย์ว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ มีรอยฟกช้ำถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว แต่เบื้องต้นยังไม่ได้มีการเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและยังไม่ได้สอบสวน รวมถึงยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร และยังไม่ได้สอบปากคำพ.ต.อ.ธิติสรรค์ เพียงเข้าไปพูดคุยเบื้องต้นด้วยการเข้าไปเยี่ยมเท่านั้น เนื่องจากการเข้าไปสอบปากคำจะต้องมีขั้นตอนการเข้าไปดำเนินการในเรือนจำ แต่เมื่อประสานไปแล้วทางเรือนจำแจ้งว่ามีความขัดข้องเกิดขึ้น
"หลังจากนี้ก็จะดำเนินการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยอมรับว่าคดีดังกล่าวเมื่อผู้ร้องทุกข์เสียชีวิตไปแล้วทำให้การดำเนินการยากขึ้น แต่ก็อยู่ในวิสัยที่ทำได้ ส่วนประเด็นที่ทางญาติมีนักโทษอีก 5 คนที่ถูกผู้คุมคนเดียวกันทำร้าย เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบความผิดจะเร่งดำเนินการ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กังวลอะไร พร้อมดำเนินการตามหลักวิทยาศาสตร์ และจะทำทุกอย่างให้โปร่งใสมากที่สุด" พล.ต.ต.เจษฎา กล่าว










Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา