สืบ ป.ป.ช. ภาค 4 ตามรวบ 'เสถียรภาพ ประเสริฐสุข หรือภัทรประเสริฐสุข' อดีตนายก อบต.บ้านดง ขอนแก่น โดนหมายจับหลบหนี 2 คดีจัดซื้อรถยนต์แพงกว่ามาตรฐาน - อนุมัติเบิกจ่ายเงินหลวงโดยมิชอบ ทำรัฐเสียหายกว่า 18 ล้าน เตรียมส่งตัวอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 ดำเนินการฟ้องร้องตามขั้นตอนกม.แล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าวการจับกุมตัว นายเสถียรภาพ ประเสริฐสุข หรือภัทรประเสริฐสุข อดีตนายกองค์การบริหาส่วนตำบล (อบต.) บ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น บุคคลตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 จำนวน 2 คดี คือ 1. กรณีจัดซื้อรถยนต์ส่วนกลางของ อบต.บ้านดง ราคาที่สูงกว่าราคามาตรฐานครุภัณฑ์ และ 2. ลงนามสั่งจ่ายเช็คโดยไม่มีเอกสารหลักฐานให้แก่บุคคลซึ่งมิใช่เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงินเกินกว่าความเป็นจริง , ให้แก่ผู้รับจ้างเกินกว่าสิทธิอนุมัติ และให้แก่บุคคลอื่น ๆ โดยไม่มีหลักฐานใด ๆ มาประกอบ ทำให้อบต.ได้รับ ความเสียหายเป็นเงิน 18,948,473.75 บาท หลังทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลตามหมายจับ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านค้อ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2568 ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 มอบหมายให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 กลุ่มที่ 2 สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 4 ทำการจับกุมนายเสถียรภาพ ประเสริฐสุข หรือภัทรประเสริฐสุข บุคคลตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 17/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 และหมายจับระหว่างพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 คดีหมายเลขดำที่ อท13/2565 คดีหมายเลขแดงที่ 304/2565 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ซึ่งสามารถดำเนินการจับตัวได้ในพื้นที่ตำบลบ้านค้อ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยมีพฤติการณ์การกระทำความผิด ดังนี้
1. หมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 17/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 ในปีงบประมาณ พ.ศ.2551 นายเสถียรภาพ ประเสริฐสุข หรือภัทรประเสริฐสุข อดีตนายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เป็นผู้มีอำนาจและได้จัดซื้อรถยนต์ส่วนกลาง จำนวน 1 คัน ประจำองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง โดยวิธีสอบราคา งบประมาณ 900,000 บาท และได้ลงลายมือชื่อในเอกสารสอบราคาซื้อเลขที่ 2/2551 ร่วมกับอดีตหัวหน้าส่วนการคลังซึ่งเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุในขณะนั้น กำหนดราคารถยนต์บรรทุกในการจัดซื้อในราคา 819,000 บาท เสนอราคา ภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2551 และคณะกรรมการ เปิดซองสอบราคาจะเปิดซองสอบราคาในวันเดียวกัน ต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม 2551 มีผู้มายื่นซองสอบราคา จำนวน 3 ราย คือ บริษัท อาร์เอส มอเตอร์เซลล์ จำกัด บริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด และบริษัทไอทีคอนเนอร์ จำกัด เมื่อประกาศผลการเปิดซองสอบราคาปรากฏว่า บริษัทโตโยต้า อมตะ จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ราคา 749,000 บาท คณะกรรมการเปิดซองสอบราคาจึงมีความเห็นให้ซื้อรถยนต์บรรทุก (ดีเซล) จากบริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้พิจารณาอนุมัติในวันดังกล่าว องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง จึงได้ประกาศผู้ชนะการสอบราคาจัดซื้อรถยนต์ส่วนกลาง 1 คัน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2551 และได้มีหนังสือถึงบริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด ให้ไปทำสัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ตามหนังสือองค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านดง ที่ ขก 84202/178 ฉบับลงวันที่ 14 สิงหาคม 2551 โดยได้ทำสัญญาซื้อขายเลขที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2551 และทางบริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด ได้ทำการส่งมอบรถยนต์ในวันเดียวกัน
จากนั้นองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้จัดทำฎีกาเบิกเงินตามงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2551 เพื่อจ่ายเป็นค่ารถยนต์ให้แก่ บริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 และได้ทำการจดทะเบียนรถยนต์เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2552 ข้อเท็จจริงปรากฏว่าการจัดซื้อรถยนต์ส่วนกลางงบประมาณ 900,000 บาท นั้น ไม่ได้ตั้งเป็นงบประมาณรายจ่าย แต่เป็นการโอนงบประมาณรายจ่ายอื่น เพื่อตั้งจ่าย เป็นรายการใหม่ เมื่อรถยนต์ส่วนกลางถือว่าเป็นครุภัณฑ์ จึงต้องขอความเห็นชอบให้สภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านดง อนุมัติก่อนถึงจะสามารถดำเนินการได้ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 ข้อ 27 แต่ปรากฏว่าในเรื่องการจัดซื้อรถยนต์ สภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 ปรากฏตามบันทึกรายงานการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง แต่การขออนุมัติจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ส่วนกลางกลับดำเนินการขออนุมัติ และประกาศสอบราคาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2551 จึงเป็นการดำเนินการก่อนที่สภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดงจะให้ความเห็นชอบ ทั้งปรากฏว่า เมื่อพิจารณาบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์เดือนพฤษภาคม 2551 ที่ใช้อยู่ ในช่วงเวลาดังกล่าวราคากลางสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่กำหนดตามรายละเอียดข้างต้นจะอยู่ที่ 618,000 บาท เท่านั้น
ส่วนราคากลางที่คณะกรรมการกำหนดราคากลางตั้งไว้ตามประกาศ คือ 819,000 บาท นั้น เป็นราคากลางของรถยนต์บรรทุก (ดีเซล) แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้การประกาศสอบราคาซื้อรถยนต์ส่วนกลางขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง เป็นการกำหนดราคาที่สูงกว่าราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ต้องทำการจัดซื้อและเบิกจ่ายเงินค่ารถยนต์ส่วนกลาง (รถบรรทุกดีเซล) ตามสัญญาซื้อขายเลขที่ 2/2551 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2551 ในราคา 749,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น อันเป็นเหตุให้องค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านดงได้รับความเสียหาย
2. หมายจับระหว่างพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 คดีหมายเลขดำที่ อท 13/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อท 304/2565 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2565 โดยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2553 คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ตามคำสั่งอำเภออุบลรัตน์ ที่ 248/2552 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2552 ได้สอบข้อเท็จจริง กรณีพบว่ามีเงินขาดบัญชี ขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 จำนวน 23,693,652.00 บาท เสร็จสิ้น โดยสรุปความเห็น และลงมติว่ามีเงินขาดบัญชีจํานวน 18,948,473.75 บาท
กล่าวคือ ในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 นายเสถียรภาพ ประเสริฐสุข หรือภัทรประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ร่วมกับอดีตหัวหน้าส่วนการคลัง อนุมัติ และลงนามสั่งจ่ายเช็คขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านดง โดยไม่มีเอกสารหลักฐานให้แก่บุคคลซึ่งมิใช่เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงินเกินกว่าความเป็นจริง อนุมัติและลงนามสั่งจ่ายเช็คขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านดง ให้แก่ผู้รับจ้างเกินกว่าสิทธิอนุมัติ และลงนามสั่งจ่ายเช็คขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านดง ให้แก่บุคคลอื่น ๆ ซึ่งมิใช่เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงิน และลงนามสั่งจ่ายเช็คบุคคลอื่นโดยไม่มีหลักฐานใด ๆ มาประกอบ โดยฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงิน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้รับ ความเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 18,948,473.75 บาท
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุว่า ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ทำการสืบสวน จนทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลตามหมายจับ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านค้อ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 จึงได้วางแผนลงพื้นที่สืบสวน พร้อมทั้งบูรณาการประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 4 วางแผนลงพื้นที่สืบสวนและติดตามบุคคลตามหมายจับรายดังกล่าว และจากการประเมินความเสี่ยง ด้านความปลอดภัยจึงได้บูรณาการเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 4 ร่วมปฏิบัติการ โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ใช้อำนาจตามหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ ค 2/2568 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ด้วยศาลเห็นมีเหตุสมควรให้ตรวจค้นบ้านที่บุคคลตามหมายจับหลบหนีมาพักอาศัย ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านค้อ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบบุคคลที่ถูกออกหมายจับ ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 17/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณดังกล่าวได้พบเห็น นายเสถียรภาพ ประเสริฐสุข หรือภัทรประเสริฐสุข อยู่ในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าไปแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นเพื่อทำการตรวจค้น พร้อมทั้งแสดงความบริสุทธิ์ใจให้นายเสถียรภาพ ประเสริฐสุข หรือภัทรประเสริฐสุข เป็นที่พึงพอใจแล้ว
จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบภาค 4 ที่ 17/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 ให้นายเสถียรภาพ ประเสริฐสุข หรือภัทรประเสริฐสุข ดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัว พร้อมกับได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ให้ทราบ จากนั้นจึงได้นำตัวมาทำบันทึกจับกุมที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 4 และจักได้นำตัวส่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปราม การทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุทิ้งท้ายว่า ขอแจ้งให้ทราบว่า หากท่านพบเห็นการทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 1205 เว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. www.nacc.go.th หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ