เผยมติ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ตีตกคดี รองศาสตราจารย์ พอพันธ์ สุทธิวัฒนะ รักษาราชการแทนอธิการบดี มรภ.รำไพรรณี ใช้รถราชการเบิกเงินค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการมิชอบ หลังไต่สวนพบปัญหาเกิดจากความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในการจัดทำเอกสารขออนุมัติ ยอดเงินเบิกจ่ายไม่ถูกต้องเล็กน้อยเพียง 2,010 บาท ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ตกไป แต่ให้ดำเนินการเรียกเงินคืน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตีตกคดีกล่าวหา รองศาสตราจารย์ พอพันธ์ สุทธิวัฒนะ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพรรณี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ใช้รถราชการและเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการโดยมิชอบ
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า เป็นกรณีใช้รถของทางราชการและเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ โดยมีคำสั่งอนุมัติให้ตนเองเดินทางเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรสร้างเสริมความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชน สำหรับผู้บริหารระดับสูง (Human Rights Executive Program : HREP) และใช้รถยนต์ราชการของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพรรณี
พร้อมพนักงานขับรถยนต์และเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางดังกล่าวโดยมิชอบ
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้นปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับฟังได้ว่า การเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าฝึกอบรมฯ เกินกว่าสิทธินี้ มิได้เกิดจากการที่รองศาสตราจารย์ พอพันธ์ สุทธิวัฒนะ ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาทุจริตแต่อย่างใด
แต่เกิดจากความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในการจัดทำเอกสารขออนุมัติเบิกจ่ายและการนับเวลาเดินทางไปราชการเพื่อคำนวณเบี้ยเลี้ยงเดินทาง และยอดเงินที่มีการเบิกจ่ายไม่ถูกต้องก็มีจำนวนเล็กน้อยเพียง 2,010 บาท ซึ่งเป็นกรณีที่สามารถแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยการเรียกเงินคืนจากผู้ที่เบิกเงิน จึงยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า รองศาสตราจารย์ พอพันธ์ สุทธิวัฒนะ ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
อย่างไรก็ดี ให้มีหนังสือแจ้งมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ให้ดำเนินการเรียกเงินที่มีการเบิกจ่ายเกินกว่าสิทธิคืนด้วย