
ไทยติดอันดับ 38 ดัชนีเตรียมพร้อมสังคมสูงอายุ เป็นรองแค่สิงคโปร์ในอาเซียน พบไทยแย่สุดในด้านความเที่ยงธรรม ดีสุดด้านสามัคคีผู้สูงวัย ขณะทั่วโลกพบสวิตเซอร์แลนด์ได้อันดับ 1 รวันดา รั้งท้ายตาราง ได้อันดับ 143
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ดัชนีว่าด้วยการเตรียมพร้อมสำหรับสังคมผู้สูงวัยหรือดัชนีผู้สูงวัย ซึ่งประเทศไทยได้อันดับที่ 38 และเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ โดยดัชนีนี้เผยแพร่ลงบนวารสาร Nature Aging มีผู้จัดทำดัชนีได้แก่มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ดำเนินการวิเคราะห์ขีดความสามารถ 143 ประเทศทั่วโลกในการสนับสนุนสังคมผู้สูงอายุ
สำหรับอันดับของประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆในอาเซียนในดัชนีนี้พบว่า
ประเทศสิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 10 ประเทศมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 65 ประเทศเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 74 ประเทศอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 85 ประเทศเมียนมาอยู่ในอันดับที่ 87 ประเทศกัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 106 และประเทศลาวอยู่ในอันดับที่ 109
สำหรับประเทศที่อยู่ในอันดับ 1 ในดัชนีผู้สูงอายุพบว่าได้แก่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศที่อยู่ท้ายตารางของดัชนีได้แก่ประเทศรวันดา อยู่ในอันดับที่ 143
โดยดัชนีผู้สูงอายุยังมีดัชนีอื่นๆในรายละเอียดปลีกย่อยในด้านต่างๆพบว่า
ในดัชนีด้านการมีส่วนร่วมในภาคการผลิตแรงงานการผลิต ไทยอยู่ในอันดับที่ 41 ขณะที่ประเทศที่ได้อันดับที่ 1 ในดัชนีด้านนี้ได้แก่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศที่ได้อันดับที่ 143 ได้แก่ประเทศจอร์แดน
ในด้านความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ พบว่าไทยอยู่ในอันดับที่ 41 ขณะที่ประเทศที่ได้อันดับที่ 1 ในดัชนีด้านนี้ได้แก่ประเทศสิงคโปร์ และประเทศที่ได้อันดับที่ 143 ได้แก่ประเทศอัฟกานิสถาน
ในดัชนีด้านความเที่ยงธรรมสำหรับผู้สูงวัย ไทยอยู่ในอันดับที่ 108 ขณะที่ประเทศที่ได้อันดับที่ 1 ในดัชนีด้านนี้ได้แก่ประเทศนอร์เวย์ และประเทศที่ได้อันดับที่ 143 ได้แก่ประเทศเอสวาตินี
ในดัชนีด้านความสามัคคีของผู้สูงวัย ซึ่งวัดความเชื่อใจของผู้สูงวัยกับบุคคลอื่น และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พบว่าไทยอยู่ในอันดับที่ 22 ขณะที่ประเทศที่ได้อันดับที่ 1 ในดัชนีด้านนี้ได้แก่บาห์เรน และประเทศที่ได้อันดับที่ 143 ได้แก่ประเทศเบนิน
และในด้านความมั่นคงปลอดภัย พบว่าไทยอยู่ในอันดับที่ 23 ขณะที่ประเทศที่ได้อันดับที่ 1 ในดัชนีด้านนี้ได้แก่ประเทศนอร์เวย์ และประเทศที่ได้อันดับที่ 143 ได้แก่ประเทศไลบีเรีย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา