เผยความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'มนตรี ชาลีเครือ' อดีตนายก อบจ.ชัยภูมิ-'มณเฑียร เลิศรัฐการ' รองฯ ทุจริตจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ 17.3 ล. ล่าสุด อสส.มีความเห็นสั่งฟ้องแล้ว แจ้ง ป.ป.ช. ประสาน 2 ผู้ถูกกล่าวหารายงานตัวอัยการฯ ฟ้องดำเนินคดีตามขั้นตอน 13 มี.ค.2568 เวลา 09.30 น. ไม่มีตามนัด มีพฤติการณ์หลบหนีเจอขอออกหมายจับแน่
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เสนอข่าวว่าในช่วงเดือน เม.ย.2567 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา นายมนตรี ชาลีเครือ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ และ นายมณเฑียร เลิศรัฐการ อดีตรองนายก อบจ.ชัยภูมิ กรณีกล่าวหากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โครงการจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ชุดพัฒนาทักษะภาษาเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียน ตามโครงการพัฒนาทักษะภาษาสู่ประชาคมอาเซียน งบประมาณ 17,360,200 บาท โดยวิธีพิเศษ ทั้งที่สามารถดำเนินการจัดซื้อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ส่อไปในทางทุจริต และมีการส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) ขอให้ดำเนินคดีอาญากับนายมนตรี และนายมณเฑียร เลิศรัฐการ แล้วนั้น
- ป.ป.ช.ชี้มูล 'มนตรี ชาลีเครือ' อดีตนายกอบจ.ชัยภูมิ-พวก จัดซื้อสื่อการเรียนรู้ 17.3 ล.
- เอ็กซ์คลูซีฟ! ล้วงมติป.ป.ช.ชี้มูล 2 อดีตบิ๊กอบจ.ชัยภูมิ คดีซื้อสื่อการเรียนรู้ 17.3 ล.
ล่าสุด แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ขณะนี้ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีคำสั่งรับดำเนินคดีนี้เป็นทางการแล้ว และมอบหมายให้ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริตภาค 3 เป็นผู้ดำเนินคดี
แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า ส่วนขั้นตอนการฟ้องคดีนั้น ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริตภาค 3 ได้ทำหนังสือแจ้ง ป.ป.ช. เพื่อให้แจ้ง นายมนตรี ชาลีเครือ และนายมณเฑียร เลิศรัฐการ ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริตภาค 3 ในวันที่ 13 มี.ค.2568 เวลา 09.30 น. เพื่อส่งตัวฟ้องคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย
"หากผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย ไม่ไปรายงานตัวพนักงานอัยการตามนัดหมาย และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า จะหลบหนี ทางอัยการจะมีการขอศาลออกหมายจับเพื่อนำตัวมาฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความตามกฎหมายต่อไป" แหล่งข่าวระบุ
@ มนตรี ชาลีเครือ
@ มณเฑียร เลิศรัฐการ
สำหรับพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ป.ป.ช. พบว่า นายมนตรี ชาลีเครือ นายก อบจ.ชัยภูมิ (ในขณะนั้น) ได้มอบอำนาจให้นายมณเฑียร เลิศรัฐการ รองนายก อบจ.ชัยภูมิ (ในขณะนั้น) เป็นผู้มีอำนาจในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ เกี่ยวกับงานจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ชุดพัฒนาทักษะภาษาเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนตามโครงการพัฒนาทักษะภาษาอาเซียน แต่นายมนตรี ได้ร่วมกันกระทำความผิดกับนายมณเฑียร แบ่งหน้าที่กันทำ
โดยนายมนตรี เป็นผู้ตั้งงบประมาณในการดำเนินโครงการพัฒนาภาษาอาเซียน ต่อมาในการดำเนินการจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ตามโครงการ นายมณเฑียร ได้สั่งการในรายงานขอซื้อ โดยอนุมัติให้กองพัสดุและดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ปรากฏว่า นาง ว. ผู้อำนวยการกองพัสดุและทรัพย์สิน ไม่ดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษตามที่ได้รับการสั่งการ และได้ทักท้วงเป็นลายลักษณ์อักษร
นายมณเฑียร จึงได้ออกคำสั่งให้นาง ว. ไปช่วยราชการสังกัดสำนักปลัด อบจ.ชัยภูมิ เป็นการชั่วคราว
จากนั้น นายมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้นาย ภ. รองปลัดอบจ.ชัยภูมิ รักษาราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองพัสดุและทรัพย์สินแทนนาง ว. เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เพื่อให้ อบจ. ชัยภูมิ สามารถดำเนินการจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ดังกล่าว โดยวิธีพิเศษ โดยไม่ชอบตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ อบจ.ชัยภูมิ
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
ส่วน นายมณเฑียร เลิศรัฐการ นอกจากถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดีจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ชุดพัฒนาทักษะภาษาเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนดังกล่าวแล้ว ยังถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดพร้อมพวก ในคดีกล่าวหาทุจริตโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จำนวน 45 โครงการ โดยวิธีพิเศษ ด้วย
อ่านประกอบ :