เผยมติ ป.ป.ช.ชี้มูล 'สมทรง ลีวัฒนะ' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบางกระสั้น พระนครศรีอยุธยา คดีร่ำรวยผิดปกติ 29 ล้าน มีเงินเล่นพนันไก่ชน 69,890 บาทด้วย ส่วนเงิน143 ล้าน ชี้แจงได้ ส่งสำนวน อสส. ฟ้องร้องดำเนินคดีตามกม. ให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว แจ้งสรรพากรสอบภาษีด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลคดีร่ำรวยผิดปกติสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า ในช่วงปี 2566 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด นายสมทรง ลีวัฒนะ เมื่อดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรณีกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ
หลังสอบสวนพบว่า นายสมทรง ลีวัฒนะ มีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือมีหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 29,169,766.40 บาท
ตามรายการดังต่อไปนี้
1. เงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซี อยุธยา ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชีนายสมทรง ลีวัฒนะ จำนวน 4 รายการ รวมเป็นเงิน 2,999,486 บาท
2. เงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาประตูน้ำพระอินทร์ ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายสมทรง ลีวัฒนะ จำนวน 71 รายการ รวมเป็นเงิน 12,582,420.40 บาท
3. เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบางปะอิน ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายสมทรง ลีวัฒนะ จำนวน 25 รายการ รวมเป็นเงิน 2,744,911 บาท
4. เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบางปะอิน ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายสมทรง ลีวัฒนะ จำนวน 57 รายการ รวมเป็นเงิน 7,985,150 บาท
5. เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบางปะอิน ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายสมทรง ลีวัฒนะ จำนวน 12 รายการ รวมเป็นเงิน 1,600,000 บาท
6. เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบางปะอิน ประเภทกระแสรายวัน ชื่อบัญชี นายสมทรง ลีวัฒนะ และนางสาวสรัญญา ลีวัฒนะ จำนวน 2 รายการ รวมเป็นเงิน 890,000 บาท
7. เงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาบางปะอิน ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายสมทรง ลีวัฒนะ จำนวน 3 รายการ รวมเป็นเงิน 120,000 บาท
8. เงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาบางปะอิน ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายสมทรง ลีวัฒนะ จำนวน 1 รายการ รวมเป็นเงิน 177,909 บาท
9. เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบางปะอิน ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายสมทรง ลีวัฒนะ จำนวน 69,890 บาท เป็นเงินที่ได้จากการเล่นพนันไก่ชน
ส่วนรายการเงินฝากเข้าบัญชีของนายสมทรง ในรายการอื่น ๆ รวมจำนวน 143,960,022.19 บาท นั้น นายสมทรง ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแสดงถึงที่มาของเงินฝากในแต่ละรายการ และได้อ้างพยานหลักฐานประกอบการชี้แจง จึงเห็นว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติแต่อย่างใด
แต่การที่นายสมทรง มีรายได้ที่ยื่นเสียภาษีในปีภาษี 2553 ถึงปีภาษี 2562 รวมเป็นเงิน 9,217,612.40 บาท เท่านั้น จึงเป็นรายได้ที่นายสมทรง ไม่ได้นำไปยื่นเสียภาษีทั้งหมด จึงให้ส่งเรื่องให้กรมสรรพากรดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้มีอำนาจสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเพื่อสั่งให้พ้นจากตำแหน่งภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปีด้วย
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า ปัจจุบันศาลฯ มีคำพิพากษาคดีร่ำรวยผิดปกติของ นายสมทรง ลีวัฒนะ ไปแล้วหรือไม่
ขณะที่ การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก