บอร์ดรถไฟ มีมติอนุมัติจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้ารวม 113 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงินรวม 2.3 หมื่นล้านบาท กางไทม์ไลน์เสนอ ครม.อนุมัติเดือน มิ.ย. 68 คาดรถล็อตแรกมาถึงต้นปี 71
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 5 ธันวาคม 2567 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการรถไฟฯ (บอร์ดรฟท.) ครั้งที่ 15/2567 เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2567 โดย มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธานกรรมการ มีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน วงเงินงบประมาณ 23,730 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ รฟท.จะสรุปรายละเอียดนำเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ตามแผนงานคาดว่า ครม.จะอนุมัติภายในเดือนมิ.ย. 2568 ซึ่งในทางคู่ขนาน รฟท.ได้เตรียมเอกสารประกวดราคา (TOR) ไปด้วย โดยจะมีการทำร่างTOR และเปิดรับฟังวิจารณ์ร่างTOR ช่วงมี.ค.68- ก.ย. 68 ,เปิดประกวดราคาช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 68 ,พิจารณาผลประกวดราคาและลงนามสัญญาในช่วงต.ค.68- ก.พ. 69 ใช้เวลาในการประกอบรถ จำนวน 113 คัน 66 เดือน ช่วง เดือนมี.ค. 69-ส.ค.74
ตามแผนงานจะแบ่งการส่งมอบรถเป็น 4 งวด งวดแรก จำนวน 23 คน ช่วงเดือนมี.ค.71-พ.ค.71 , งวดที่ 2 จำนวน 30 คัน ช่วงเดือนก.ย. 71-พ.ย.71 ,งวดที่ 3 จำนวน 30 คัน ช่วงเดือนก.ย. 72 -พ.ย.72 , งวดที่4 จำนวน 30 คัน ช่วงเดือนก.ย. 73 -พ.ย. 74
สำหรับการจัดหา รถจักรดีเซลไฟฟ้า พร้อมอะไหล่ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน จะเป็นรถดีเซลไฟฟ้า (ไฮบริด) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมและพัฒนาระบบขนส่งที่ลดการใช้น้ำมัน โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเมินการสิ้นเปลืองน้ำมันรถจักรไฮบริดลดลง20% เมื่อเทียบกับ รถจักรดีเซล
ขณะที่ราคารถจักรไฮบริด (รวมอะไหล่) คันละ 210 ล้านบาท เปรียบเทียบรถจักรดีเซลไฟฟ้า (รวมค่าอะไหล่) คันละ 139 ล้านบาท เมื่อคิดการประหยัดน้ำมันของรถจักรไฮบริด เปรียบเทียบกับรถจักรดีเซลที่ใช้ในปัจจุบัน พบว่า ในปี 2571 จะลดค่าใช้จ่ายรายปีได้ 225.89 ล้านบาท หักผลต่างราคารถจักรดีเซลกับ รถจัดรไฮบริด (ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ และซ่อมบำรุง ปีที่ 6 และปีที่ 12 ) ผลตอบแทนของรถจักรไฮบริดจะเป็นบวกในปีที่10 จำนวน 106.69 ล้านบาท และในระยะเวลา 12 ปี หรือช่วงปี 2571 - 2582 จะสามารถประหยัดค่าน้ำมันได้รวม จำนวน 44,231 ล้านบาท
โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน เป็นการดำเนินตามแผนวิสาหกิจ การรถไฟฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการให้บริการ และเพิ่มรายได้ของการรถไฟฯ ซึ่งปัจจุบัน รฟท. มีรถจักร (ไม่รวมรถจักรสับเปลี่ยน) จำนวน 187 คัน มีสภาพเก่าและอายุใช้งานมาก ทำให้มีภาระด้านงบประมาณ ในการซ่อมบำรุง เพื่อให้รถจักรมีสภาพพร้อมใช้งาน (Availability ) และในปี 2576-2579 จะตัดหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสตรอม จำนวน 50 คันออก เนื่องจากมีอายุใช้งานเกินกว่า 50 ปี เหลือไว้ 10 คันที่มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ทำให้ หลังปี 2580 จะเหลือรถจักรใช้งานจำนวน 137 คัน
ขณะที่รฟท.มีความต้องการรถจักรเพื่อรองรับการให้บริการและเส้นทางรถไฟทางคู่ เพื่อให้บริการเดินรถเชิงพาณิชย์และรถสินค้า โดยตามแผนในปี 2567-2580 ต้องการรถจักร ตำรวร 127 คัน และในปี 2580 ต้องการรถจักรเพิ่มเป็น 242 คัน หรือเพิ่มขึ้นอีก 115 คัน
วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)