ตำรวจยินดี ‘ดีเอสไอ’ รับ ‘คดีดิไอคอน’ เป็น ‘คดีพิเศษ’ – ‘บิ๊กต่าย’ สั่งสอบ ‘นายตำรวจ’ ขึ้นเวที ‘ดิ ไอคอน’ ฟาก ‘ทนายบอสพอล’ จ่อ แจ้งความ ‘นักร้องสาว ก.’ กรรโชกทรัพย์ 10 ล้านบาท เล็ง ดำเนินคดี ‘เอกภพ-สายไหมต้องรอด’ ปม คริปโตฯ ทำบริษัทเสื่อมเสีย รวบรวมข้อมูลดำเนินคดี ‘ทนายความชื่อดัง’ เรียก 7 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับคดี ดิไอคอน กรุ๊ป เรื่องฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ ว่า ตำรวจยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ หลังจากนี้ถ้ามีหนังสือจากดีเอสไอส่งมาถึง ตำรวจพร้อมจะส่งสำนวนและข้อมูลทั้งหมดให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษทันที ถือว่าเป็นเรื่องดีและพร้อมจะร่วมมือกันทำงานเพื่อประชาชนต่อไป
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า คดี ดิไอคอน กรุ๊ป ที่ตำรวจทำอยู่ คือ ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 อีก ส่วนหลังจากนี้อยากให้ตำรวจช่วยด้านไหนสามารถประสานมาได้ตลอด ตำรวจยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ หรือจะรับสำนวนคดีทั้งหมดไปด้วยทางตำรวจก็ยินดี
แหล่งข่าวระบุว่า สำหรับคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป ที่ตำรวจสอบสวนอยู่นั้นได้แจ้งข้อหาคดีฉ้อโกงประชน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดไปแล้ว แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อหาฟอกเงิน ส่วนหลังจากนี้ที่ดีเอสไอ จะรับคดีฟอกเงินเป็นคดีพิเศษนั้น จะต้องไปสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาและแจ้งข้อหาเอง ในส่วนของตำรวจหลังจากนี้ ถ้าสอบสวนแล้วพบว่ามีความผิดตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 อันเป็นการฉ้อโกงประชาชนแล้ว ตำรวจจะทำหนังสือแจ้งไปยังดีเอสไออีกครั้ง แต่ทั้งนี้ต้องรอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการมาก่อนว่า จะให้ส่งคดีทั้งหมดให้ดีเอสไอรับไปด้วยหรือไม่
@ ‘บิ๊กต่าย’ สั่งสอบด่วน ‘นายตำรวจ’ ขึ้นเวที ‘ดิ ไอคอน’
ขณะเดียวกันพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งสอบสวนด่วน หลังมีคลิปวิดีโอนายตำรวจ พูดชัดกชวนให้เข้าร่วมธุรกิจกับบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป โดย ที่กองบังคับการกองปราบปราม มีรายงานว่า พ.ต.อ.สมคิด สาวิสัย รองผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี (รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี) เดินทางเข้าให้ปากคำกับทีมสืบสวนของกองปราบฯ หลังจากมีคลิปของตนเองแต่งเครื่องแบบเต็มยศ ขึ้นเวทีพูดจากชักชวนให้เข้าร่วมทำธุรกิจกับบริษัทไอคอนฯ ทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีฯ จึงเชิญตัวมาให้ปากคำเพื่อสอบถึงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกันมีบันทึกข้อความจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ด่วนที่สุดส่วนราชการ ตร. เรื่องให้ดำเนินการข้าราชการจะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จํากัด ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อสังคมอนไลน์ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.67 โดยมีคลิปวิดีโอข้าราชการตำรวจมีพฤติกรรมพูดชักชวนให้กลุ่มบุคลเข้าร่วมธุรกิจกับบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จํากัด ซึ่งเป็นการพูดพาดพิงถึงตร. ในที่สาธารณะในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายและบั่นทอนจิตใจข้าราชการตำรวจในองค์กร จึงให้ดำเนินการดังนี้
1.ให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตรวจสอบบุคคลดังกล่าวและเรียกตัวมาสอบสวนปากคําในทางคดี หากพบว่า มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำความผิดหรือร่วมกระทำผิดกับผู้ต้องหาในบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป และให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และ 2.ให้สำนักงานจเรตำรวจ (จต.) ตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวว่ามีมูลกรณีการกระทำความผิดทางวินัยหรือไม่อย่างไร โดยรายงานผลให้ทราบภายในวันที่ 27 ต.ค.67 นี้ด้วย
@ ‘ทนายบอสพอล’ แจ้งความ ‘นักร้อง สาว ก’ กรรโชกทรัพย์ 10 ล้าน
ต่อมาในเวลา 16.30 น. วันที่ 24 ต.ค.67 ที่ บช.ก นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับนักร้องเรียนสาว ก. กรณีบอสพอลถูกรีดทรัพย์ 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป
นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้มีการส่งทีมทนายนำเอกสารไปให้บอสพอลลงนามมอบอำนาจให้มาดำเนินคดี โดยตนได้รับคำสั่งมา 4 ออเดอร์ คือ ส่วนที่ 1.ให้แจ้งความเอาผิดกับนักร้องสาว ก. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนรีดทรัพย์จะเข้าหรือไม่จะต้องคุยรายละเอียดกับทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากเคยถูกเรียกเงินจำนวน 10 ล้านบาทเพื่อแลกกับการร้องเรียนบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป
นายวิฑูรย์กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ 2 อยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับทางนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับบอสพอล นำข้อมูลว่าบอสพอลมีการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโต ซึ่งทางตำรวจได้มีการออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้ ขณะนี้ทางทีมทนายรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมเอกสารเพื่อจะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป แต่ยังไม่มีกำหนดวันเวลาที่แน่ชัด สาเหตุที่ต้องดำเนินคดีเพราะทำให้บริษัทเสื่อมเสีย หน่วยงานที่ถูกพาดพิงเสียหายไปด้วย โดยบอสพอลยืนยันไม่รู้จักบุคคลดังกล่าว
@ รวบรวมข้อมูลดำเนินคดี ‘ทนายความชื่อดัง’ เรียก 7 ล้าน
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ 3 บอสพอลสั่งให้รวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีกับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง เป็นหนึ่งในทนายดรีมทีม เพราะก่อนหน้าที่เหล่าบอสจะถูกจับกุม ทนายคนดังกล่าวโทรศัพท์ไปหาทางบอสพอลเพื่อเจรจาต่อรอง ให้ทางบอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งบอสพอลยังไม่ได้จ่ายจำนวนดังกล่าวไปแต่อย่างใด ซึ่งก็จะต้องไปตรวจสอบดูว่าจำนวนเงินดังกล่าวตรงกับความเสียหายของผู้เสียหายกลุ่มนี้หรือไม่ ทั้งนี้เลขาของบอสพอลได้มีการบันทึกเสียงขณะเจรจากันไว้ หากตนได้คลิปเสียงดังกล่าวจะดูความเหมาะสมแล้วจะนำมาเปิดเผยอีกครั้ง
นายวิฑูรย์กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ 4 ตนจะรวบรวมรายชื่อแม่ข่ายที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย จากนั้นแม่ข่ายขัดผลประโยชน์กับบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป แต่มาเนียนอ้างว่าเป็นผู้เสียหายด้วย โดยจะนำเอกสารรายชื่อมาให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบต่อไป
นายวิฑูรย์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ดีเอสไอได้รับคดีดิไอคอน กรุ๊ป เป็นคดีพิเศษในส่วนคดีฟอกเงินนั้น ตนมองว่าดี เพราะพนักงานสอบสวนบก.ปคบ. มีการทำงานหนักจนล้นดีเอสไอมาช่วยในคดีนี้ก็จะเป็นการแบ่งเบาพนักงานสอบสวนบก.ปคบ.ไปได้เยอะ
นายวิฑูรย์กล่าวถึงกรณีโทรศัพท์มือถือของพนักงาน ดิ ไอคอน ที่ถูกเชิญตัวมาให้ปากคำในฐานะพยาน และถูกยึดไปเมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 ล่าสุดได้รับคืนหมดแล้วเมื่อช่วงบ่ายสองที่ผ่านมา จึงจะไม่ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เบื้องต้นขณะนี้ยืนยันยังไม่มีการยื่นประกันตัว 18 บอส ที่อยู่ในเรือนจำด้วย