ป.ป.ช.สนธิกำลัง บช.ก. รวบนอมินีจดบริษัทให้ลูกเขย อดีตนายกเทศฯ บางเมือง สมุทรปราการ-ปลอมแปลงเอกสาร รับงานจ้างเหมาถมดิน 2 โครงการช่วงปี 49 งบประมาณ 9.72 ล้าน ก่อนหนีหมายศาลคดีทุจริตช่วงปี 64
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าวันที่ 17 ต.ค. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกเอกสารข่าวแจกกรณีเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 1 บูรณาการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายรังสรรค์ รัตน์กระทุ่ม ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 17/2564 ลงวันที่ 6 ต.ค. 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 162 (2) (4) ประกอบมาตรา 86 และ พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86
โดยระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ถึงเดือนกรกฎาคม 2549 นายรังสรรค์ฯ มีพฤติกรรมใช้ชื่อของตนเองจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลชื่อ ร้านโอกาสแก้จน ให้กับบุตรเขยของอดีตนายกเทศมนตรีตำบลบางเมือง ซึ่งรับราชการอยู่ที่เทศบาลตำบลบางเมือง และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารรับรองผลงานไปยื่นเสนอราคาโครงการจ้างเหมาถมดินปรับพื้นที่บริเวณที่ดินของเทศบาล งบประมาณ 5,948,000 บาท และโครงการจ้างเหมาถมดินสถานที่ก่อสร้างที่พักพนักงานเทศบาลตำบลบางเมือง งบประมาณ 3,772,000 บาท รวม 2 โครงการ งบประมาณ 9,720,000 บาท
โดยที่ร้านโอกาสแก้จน ไม่มีคุณสมบัติตามประกาศจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว แต่นายกเทศมนตรีในขณะนั้น ไม่ตัดสิทธิร้านโอกาสแก้จนออกจากการเสนอราคาทั้ง 2 โครงการและไม่ยกเลิกการเสนอราคา ทั้งที่ทราบว่าร้านโอกาสแก้จนไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศจัดซื้อจัดจ้างและมีการปลอมแปลงเอกสารรับรองผลงาน เนื่องจากเจ้าของที่แท้จริงของร้านโอกาสแก้จนเป็นบุตรเขยของตนเอง แต่กลับทำสัญญาจ้างร้านโอกาสแก้จน ให้เข้าเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบลบางเมือง โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมอันเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ร้านโอการศแก้จนให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านชุมชนทานตะวัน ซอยวัดไตรสามัคคี 9 ถนนสุขุมวิท ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 15 ตุลาคม 2567 จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.30 น. ของวันที่ 16 ตุลาคม 2567 พบเห็นบุคคลมีลักษณะและรูปพรรณสัณฐานตรงกับผู้ถูกกล่าวหาขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมา จากบ้านเป้าหมาย ชุดจับกุมได้ติดตามมาถึงบริเวณกลางซอยภานุวงศ์ 6 จึงได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดรถและแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและเจ้าพนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอตรวจสอบ
พบว่าบุคคลดังกล่าว คือนายรังสรรค์ รัตน์กระทุ่ม ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับจริง จึงได้แสดงหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ที่ 17/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564 พร้อมกับแจ้งว่าจะต้องถูกจับ จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาไปพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือพื้นที่จับกุม และควบคุมตัวไปยังกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อทำบันทึกจับกุมพร้อมแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับให้ทราบ โดยดำเนินการแจ้งการควบคุมตัวไปยังอัยการและฝ่ายปกครองตาม พรบ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ 2565 จากนั้นนำตัวส่งไปยังสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริตภาค 1 เพื่อฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ต่อไป
อนึ่งการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นางสาวชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1