ป.ป.ช.ภาค 4 สนธิกำลังตำรวจ รวบอดีตหัวหน้าฯคลัง อบต.หนองเทา นครพนม ทุจริตลงนามสั่งจ่าย-เบียดบังเงินรวม 16.7 ล. ช่วงปี 48-50 ก่อนหนีไปทำงานโรงงานไม้ที่อยุธยา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์กรณี เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 สำนักสืบสวนคดีทุจริต สังกัดสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 1 และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ปฏิบัติการบูรณาการร่วม ทำการจับกุมนายพิศิษฐ บุพศิริ หัวหน้าส่วนการคลัง องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนครพนม ที่ 97/2563 ลงวันที่ 28 กันยายน 2563
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91
โดยนายพิศิษฐเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นครพนม ได้กระทำการโดยทุจริตต่างกรรมต่างวาระ ดังนี้
1.เบียดบังเงินที่ได้รับการจ่ายคืนในโครงการเศรษฐกิจชุมชนจากกลุ่มเกษตรกร จำนวน 178,262 บาท เบียดบังเงินภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีป้าย และภาษีบำรุงท้องที่ จำนวน 1,165 ใบเสร็จ เป็นเงิน 71,352.36 บาท
2.ร่วมกันลงนามสั่งจ่ายเช็คโดยไม่มีฎีกาเบิกจ่ายเงิน/หลักฐานการจ่ายเงิน จำนวน 131 ฉบับ เป็นเงิน 9,333,351.67 บาท
3.ร่วมกันลงนามสั่งจ่ายเช็คให้ร้านอ้วนคอมพ์ ซึ่งไม่ได้เป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเทาจริง จำนวน 48 ฉบับ เป็นเงิน 6,202,629.74 บาท
4.ร่วมกันลงนามสั่งจ่ายเช็คโดยมีฎีกาให้ตรวจสอบแต่เอกสารประกอบฎีกาไม่ครบถ้วน จำนวน 9 ฉบับ เป็นเงิน 964,837 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 16,750,432.77 บาท อันเป็นการดำเนินการโดยมิชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการและองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเทา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2548 ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2550 หมายจับมีกำหนดขาดอายุความวันที่ 30 กันยายน 2568
เนื่องด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายพิศิษฐ บุพศิริ ได้หลบหนีไปยังเขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยทำงานอยู่ที่โรงงานไม้แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอนครหลวง คณะพนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตจึงได้ร่วมกันทำการวางแผนเข้าจับกุมโดยเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณโรงงานไม้ดังกล่าวและเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งพบตัวนายพิศิษฐ บุพศิริ กำลังขับรถยนต์กระบะบรรทุกไม้พร้อมคนงานอีก 1 คน ออกจากโรงงานไม้มุ่งหน้าไปทางอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พนักงานเจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามอย่างกระชั้นชิดพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรภาชีเพื่อสกัดจับ และร่วมกันจับกุมตัว ได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงภาชี หมู่ที่ 4 ตำบลภาชี อำเภอภาชี ในเวลาประมาณ 09.45 น.
โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงาน จากนั้นได้แสดงหมายจับและอ่านหมายจับให้นายพิศิษฐ ฯ ฟัง นายพิศิษฐฯ รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน พนักงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ทราบ จากนั้นได้นำตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทำบันทึกจับกุม เก็บลายพิมพ์นิ้วมือเพื่อจัดทำทะเบียนประวัติผู้ถูกกล่าวหา/ผู้ถูกจับ รวมทั้งแจ้งการควบคุมตัวไปยังอัยการและฝ่ายปกครองและดำเนินการตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.2565 จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป
อนึ่งการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการโดยนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4 และนางสาวชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1