
อสส. ประสานอัยการสูงสุดเจอร์ซี่ย์ เดินเรื่องติดตามเงิน 10.46 ล้านบาทส่งคืนประเทศไทย หลังอัยการสหรัฐฯ เดินหน้ายึดเงินคดี อดีตผู้ว่า ททท.-ลูกสาว รับสินบนเทศกาลหนังนานาชาติกรุงเทพฯ -เผยเส้นทางการเงินพบโอนถ่ายไปหลายประเทศทั้งไอร์แลนด์-สวิตเซอร์แลนด์-สิงคโปร์-สหราชอาณาจักร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 16 ก.ย. สำนักงานโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการติดตามเงิน 10.46 ล้านบาทจากผู้กระทำผิดจากคดีรับสินบนจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ หลังจากที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าทางการสหรัฐอเมริกาได้ยึดเงินเป็นจำนวน 236,173.81 ปอนด์ (10,461,066.21 บาท) จากธนาคารในเกาะเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองภายใต้อธิปไตยของสหราชอาณาจักร

สำนักงานโฆษกฯ ระบุว่า คดีนี้ เมื่อปี 2565 สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับเรื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กรณีกล่าวหานางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ผู้ว่า ททท.) และบุตรสาว ซึ่งร่วมกันทุจริตโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ในช่วงปี 2545 - 2550 ต่อมาอัยการสูงสุด ได้มอบหมายให้สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ประสานงานกับอัยการสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการติดตามทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริตส่งคืนให้กับประเทศไทย
สำนักงานอัยการสูงสุดขอชี้แจงความเป็นมาเกี่ยวกับคดี ดังนี้
1. ทรัพย์สินที่จะต้องดำเนินการเจรจาให้ส่งคืนดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากการสืบสวนสอบสวนของอัยการสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินคดีกับ Mr. Gerald Green (ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว) และภรรยาคือ Ms. Patricia Martha Green รวมทั้งคนไทยสองคน คือ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่า ททท. และ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาว ซึ่งได้ร่วมกันทุจริตรับสินบน จากการตรวจสอบ ทางการสหรัฐอเมริกาพบเส้นทางการเงินของสินบนส่วนหนึ่งจ่ายให้แก่นางจุฑามาศ โดยส่งไปยังเกาะเจอร์ซี่ย์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเอง ภายใต้อธิปไตยของสหราชอาณาจักร
2.ต่อมาวันที่ 16 มี.ค.65 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอให้ทางการเกาะเจอร์ซี่ย์ ดำเนินการริบเงินสินบนของนางจุฑามาศ ดังกล่าวส่งคืนประเทศไทย หลังจากนั้นสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ได้ดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาริบทรัพย์สินตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดประสานงาน จนกระบวนการพิจารณาของทางการเกาะเจอร์ซี่ย์มีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินดังกล่าวและคดีถึงที่สุด ทางสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ได้สอบถามมายังสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุดว่า เงินดังกล่าวจะให้ส่งคืนให้ทางการสหรัฐอเมริกาหรือประเทศไทย เนื่องจากมีการยื่นคำร้องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ทั้งสองประเทศ
3. สำนักงานอัยการสูงสุดจึงได้หารือประเด็นดังกล่าวกับพนักงานอัยการสหรัฐอเมริกา และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา จนได้ข้อยุติว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์จะส่งทรัพย์สินให้ทางสหรัฐอเมริกาก่อน เพราะเป็นผู้ยื่นคำร้องขอให้ยึดก่อน รวมทั้งเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ในหลายประเทศ เมื่อทางการสหรัฐอเมริกาได้รับทรัพย์สินจากทางการเกาะเจอร์ซี่ย์แล้ว ก็จะรวบรวมส่งเงินคืนให้กับประเทศไทยเอง ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงภายใต้สนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญาระหว่างไทย -สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1986
4.ต่อมาสำนักงานอัยการสูงสุด จึงแจ้งเรื่องดังกล่าวให้สำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ รวมถึงการประสานกับพนักงานอัยการสหรัฐอเมริกาและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้สหรัฐอเมริกาได้ส่งเงินจำนวน 10.46 ล้านบาท คืนให้กับประเทศไทยเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป
นอกจากนี้ เงินสินบนจากคดีนี้ได้มีการโอนผ่องถ่ายไปยังหลายประเทศ รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งริบและส่งคืนทรัพย์สินมายังประเทศไทยในทุกประเทศ ขณะนี้ทุกเรื่องอยู่ในระหว่างการดำเนินกระบวนพิจารณาในประเทศนั้น ๆ โดยสำนักงานอัยการสูงสุดได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพนักงานอัยการในแต่ละประเทศ และจะรายงานผลความคืบหน้าต่อไป
ในเรื่องดังกล่าว นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ได้มอบหมายให้พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการ ซึ่งความสำเร็จในเรื่องนี้เป็นผลโดยตรงที่เกิดจากการประสานงานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดของประเทศไทย สำนักงานอัยการสูงสุดสหรัฐอเมริกา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา และสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นภารกิจโดยตรงของสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ประสานงานกลางตามกฎหมายของประเทศไทย
สำหรับคดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุกนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อายุ 77 ปี อดีตผู้ว่าการ ททท. และ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาว อายุ 50 ปี เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 จากกรณีรับเงินตอบแทน สามี-ภรรยาชาวสหรัฐอเมริกา นักธุรกิจภาพยนตร์ เพื่อให้ได้สิทธิในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ พ.ศ. 2545-2550 มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยให้จำคุกนางจุฑามาศ 66 ปี แต่ตามกฎหมายจำคุกสูงสุดไว้ 50 ปี ส่วน น.ส.จิตติโสภาจำคุก40 ปี ต่อมาศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คงจำคุกสูงสุดนางจุฑามาศ 50 ปี และจำคุก น.ส.จิตติโสภา รวม 40 ปี
อ่านประกอบ:
-
สหรัฐฯอายัดเงินคดีสินบนเทศกาลภาพยนตร์ 10.4 ล. จากบัญชีเกาะเจอร์ซีย์ จ่อส่งคืนให้ไทย
-
อายัด 15.7 ล.! เงินฝาก 'จุฑามาศ' อดีตผู้ว่าการ ททท.ในแบงก์สิงคโปร์ คดีรับสินบน
-
ฎีกายืนคุกจริง 50 ปี‘จุฑามาศ’อดีตผู้ว่า ททท.-ลูก 40 ปี คดีรับสินบน 60 ล.จัดเทศกาลหนัง
-
อุทธรณ์ยืนคุก 50 ปี! อดีตผู้ว่าฯ ททท. รับสินบนจัดเทศกาลหนัง-เลิกริบเงิน 62 ล.
-
คำพิพากษาฉบับเต็ม! คดี‘จุฑามาศ’ รับสินบน-5 เม.ย.ถกตามเงิน 62 ล.คืนแผ่นดิน
-
ป.ป.ช.ฟัน‘อดีตผู้ว่าฯ ททท.’รวยผิดปกติ 65 ล.ซุกบัญชีชื่อลูกใน 4 ประเทศ
-
โชว์เส้นทางเงินคดีรวยผิดปกติ ‘จุฑามาศ’ซุกในบัญชีลูก 4 ประเทศ 65 ล.
-
บทวิเคราะห์ 8 ข้อ คำพิพากษาจำคุก'จุฑามาศ50ปี-บุตรสาว44ปี' ฉบับ ป.ป.ช.
-
อสส.นำ“อดีตผู้ว่าฯ ททท.-บุตร”ฟ้องศาลอาญา ปมรับเงิน 60 ล.จัดเทศกาลหนัง
-
อสส.สั่งฟ้อง! “อดีตผู้ว่าฯ ททท.”ปมเรียกรับเงิน 60 ล.จัดงานเทศกาลหนัง
-
คณะทำงานร่วมฯส่งหลักฐานจากสหรัฐเพิ่ม!ชงอสส.ฟ้อง"จุฑามาศ"รับสินบน 60 ล.
-
คณะทำงานร่วมฯสอบ 3 ปีชง อสส. ฟ้องอดีตผู้ว่าฯททท.รับสินบน 60 ล.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา