ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สมภพ สายแก้ว' พวก อดีตนายก อบต.เนินพระปรางค์ สุพรรณบุรี ปลอมเอกสารราชการใช้เลื่อนตำแหน่ง ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษจำคุก 3 กระทง 3 ปี ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายบุญสม สามงามยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เนินพระปรางค์ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี กับพวก ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอมเพื่อเลื่อนระดับตำแหน่ง ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , 162 (4), 264 , 265 และ 268 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2563
โดยคดีนี้ ปรากฏชื่อ นายสมภพ สายแก้ว เป็นจำเลยเพียงรายเดียว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาว่า นายสมภพ สายแก้ว จำเลยมีความผิด ให้ลงโทษตามมาตรา 157 จำคุกกระทงละ 1 ปี กระทำผิด 3 กระทง คงจำคุก 3 ปี
ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีเดิม เนื่องศาลรอการลงโทษจำคุก จึงไม่อาจนับโทษต่อได้ ข้อหาและคำขออื่นให้ยก
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2567 มีมติขอความอนุเคราะห์อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการอุทธรณ์คำพิพากษาตามฟ้องข้อ 2.5 ให้ลงโทษจำเลย ตามมาตรา 157 , 264, 265 และ 268
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ