'พิธา' ออกแถลงการณ์เน้นย้ำปฏิรูปองค์กรอิสระ-ศาลรัฐธรรมนูญ หลังเหตุถอดถอน 'เศรษฐา' ย้ำการตัดสินประเด็นจริยธรรม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งควรมีส่วนร่วม การตีความมาตรฐานจริยธรรมต้องขึ้นกับประโยชน์ประเทศชาติ ย้ำตอนนี้สถานการณ์เหมือนประเทศโดนรัฐประหาร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์โซเชียลมีเดียชื่อว่า The Medium หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งคณะรัฐมนตรีทั้งคณะมีเนื้อหาระบุว่า
“แถลงการณ์ของผมเกี่ยวกับการปลดนายเศรษฐา ทวีสิน”
ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองควรมีจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต อย่างไรก็ตาม แต่ละบุคคลสามารถตีความคำว่าจริยธรรมได้แตกต่างกันออกไป ดังนั้นตราบใดที่การกระทําไม่ถือเป็นการทุจริตอย่างโจ่งแจ้งซึ่งมีโทษโดยบทบัญญัติทางกฎหมายที่ชัดเจน การพิจารณาทางจริยธรรมควรเป็นเรื่องของความรับผิดชอบทางการเมืองขึ้นอยู่กับการตัดสินของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการใช้เสรีภาพในการตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์การทํางานของผู้ที่ดํารงตําแหน่ง
คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของศาลและองค์กรอิสระอื่นๆที่มีในการตีความมาตรฐานทางจริยธรรม สิ่งที่สำคัญก็คือว่าการตีความเหล่านี้จะถูกนำไปใช้อย่างสม่ำเสมอ และยุติธรรม เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าการตีความนั้นจะต้องตอบสนองต่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ
ดังนั้นกรณีของนายกรัฐมนตรีเศรษฐาจึงเป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่ากระบวนการเพื่อจะตีความมาตรฐานทางจริยธรรมนั้นจะต้องมีความยุติธรรมและความโปร่งใสในกระบวนการเหล่านี้
ณ ตอนนี้ประเทศไทยไม่มีทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้นําฝ่ายค้านไปพร้อมกันและพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดก็ถูกยุบ ภาวะที่ไม่มีกลไกประชาธิปไตยที่ใช้งานได้เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นยกเว้นแต่ในประเทศเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองตระหนักถึงความจําเป็นเร่งด่วนในการปฏิรูปรัฐธรรมนูญและพิจารณาขอบเขตของอํานาจที่มอบให้แก่ศาลรัฐธรรมนูญและหน่วยงานอิสระทั้งหมด” นายพิธากล่าว
เรียบเรียงจาก:https://medium.com/@limjaroenrat/my-statement-on-the-removal-of-mr-srettha-thavisin-aa66b67448a8