เผยมติ ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ตีตกคดี 'อนุภาส ปฏิเสน' อดีต ส.อบจ.เชียงราย ร่ำรวยผิดปกติ มีรายการเงินฝากบัญชีคู่สมรสผิดปกติ 2.2 ล้าน เกินฐานะอาชีพ หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ากระทำผิด ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ตีตกคดี นายอนุภาส ปฏิเสน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย มีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ กรณีบัญชีเงินฝากคู่สมรส มีรายการนำฝากเงิน ที่ผิดปกติ 2,225,000 บาท จำนวนเงินที่นำฝากเกินกว่าฐานะและอาชีพของผู้ยื่นและคู่สมรส ซึ่งไม่สามารถชี้แจงพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบถึงแหล่งที่มาของจำนวนเงินดังกล่าวได้
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า นายอนุภาส ปฏิเสน ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุปว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มเติมของผู้ถูกกล่าวหา ตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 โดยการตรวจสอบเชิงลึก ปรากฎว่า บัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาแม่สาย 2 เลขที่บัญชี XXX ของคู่สมรส มีรายการนำฝากเงิน ที่ผิดปกติ จำนวนเงินที่นำฝากเกินกว่าฐานะและอาชีพของผู้ยื่นและคู่สมรส ซึ่งไม่สามารถชี้แจงพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบถึงแหล่งที่มาของจำนวนเงินดังกล่าวได้ กรณีจึงมีเหตุอันควรว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทั้งปวงแล้ว ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 จากการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สิน ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินลดลงสุทธิ 9,415,055.43 บาท
แต่พบนัยยะจากการตรวจสอบคือ ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสมีเงินฝากในธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาแม่สาย เลขที่บัญชี XXX จำนวน 2,225,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินฝากที่เกินกว่าสถานะและอาชีพของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส จึงเป็นกรณีเหตุอันควรสงสัยในที่มาของเงินฝากดังกล่าว
เมื่อวิเคราะห์จากพยานหลักฐานทั้งปวงแล้ว ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่า ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของการมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติไม่สัมพันธ์กับรายได้ หรือการมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควรสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือเป็นกรณีร่ำรวยผิดปกติตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด
คณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า เงินจำนวน 2,225,000 บาท ตามที่มีเหตุอันควรสงสัย มิใช่ทรัพย์สินที่เป็นมูลเหตุแห่งการที่ผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติไม่สัมพันธ์กับรายได้ หรือการมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควรสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ และเห็นว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป และเห็นควรนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า นายอนุภาส ปฏิเสน ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป