'นิวัติไชย เกษมมงคล' เลขาฯ ป.ป.ช. คอนเฟิร์มอิศรา คกก.ชุดใหญ่ มีมติชี้มูล 'ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ' สส.ภูมิใจไทย คดีรับทรัพย์สินยอมให้บุคคลภายนอกชำระค่ารักษาพยาบาลแทนตนเอง 1.3 ล้าน แล้ว โดนอาญา-พ่วงผิดจริยธรรมร้ายแรง รอรับรองรายงานการประชุม ก่อนเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้ง
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ชี้มูลความผิด นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย (สมัยแรก) กรณีกล่าวหารับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้ใด เนื่องจากยอมให้บุคคลภายนอกชำระค่ารักษาพยาบาลแทนให้แก่ตนเอง เป็นจำนวนเงิน 1,335,778 บาท ในเข้ารักษาทางด้านโรคหัวใจที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ช่วงวันที่ 23 ก.ย.-18 ต.ค.2562
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูล นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส. เขต 7 จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย จากกรณีรับทรัพย์สินค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนเงิน 1,335,778 บาท ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วจริง ฐานความผิดมีทั้งคดีอาญาและเป็นทางการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้
"ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพิ่งมีมติชี้มูลคดีนี้ไป ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอรับรองรายงานการประชุม หลังจากนั้นน่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดต่อสื่อมวลชนได้"นายนิวัติไชยกล่าว
เมื่อถามว่า นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ออกระบุว่า เพิ่งเดินทางมาให้ปากคำพร้อมยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา เรื่องยังอยู่ระหว่างกระบวนการไต่สวน ป.ป.ช. ยังไม่มีมติชี้มูล?
นายนิวัติไชย กล่าวว่า "บอกได้แค่ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลเรื่องนี้ไปแล้ว"
เมื่อถามว่า พอจะเปิดเผยข้อมูลได้หรือไม่ ว่าใครเป็นผู้ออกค่ารักษาพยาบาลให้แก่ นายณัฏฐ์ชนน?
นายนิวัติไชย กล่าวว่า "ขอไม่ลงลึกรายละเอียดอะไรในขณะนี้ เมื่อดำเนินขั้นตอนเสร็จแล้วจะมีการเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้ง"
@ นิวัติไชย เกษมมงคล
อนึ่งเกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า กรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างมาก 4 เสียง ได้แก่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. นายวิทยา อาคมพิทักษ์ นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ และนายภัทรศักดิ์ วรรณแสง ส่วนกรรมการ ป.ป.ช.เสียงข้างน้อย ได้แก่ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข และนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์
สำหรับฐานความผิดของ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 128 ประกอบ มาตรา 169
นอกจากนี้ ยังมีมูลความผิด ฐานขอ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดในประการที่อาจทำให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ ฐานรับของขวัญของกำนัล ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดและฐานกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 7 ประกอบข้อ 27
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน ไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และให้เสนอเรื่องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงต่อศาลฎีกาฯ เพื่อวินิจฉัยตามฐานความผิดดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่สิ้นสุด นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก