ป.ป.ช.เผยแพร่ข่าวเป็นทางการ! รวบอดีตรองปลัด อบต.พิมาย ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดียักยอกเงินออกจากคลัง มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้าน คาสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 3 หลังเจ้าตัวใช้วิธีการนำบัตรประชาชน เอกสารหลักฐานแสดงตนพี่สะใภ้ มาอำพราง ก่อนไปสมัครทำงาน “หนีซุกปีก” ทนายความคนดังรายหนึ่งจังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่เป็นเสมียนทนาย-เลขาคนสนิท
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สามารถติดตามจับกุมตัว นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชาชน พิมพ์พุทธชาติ อดีตรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต) พิมาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ในคดียักยอกเงินออกจากคลังของ อบต.พิมาย เป็นจำนวนเงินกว่า 50 ล้านบาท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2565
โดยเจ้าตัวได้ใช้วิธีการนำบัตรประชาชน เอกสารหลักฐานแสดงตัวตนของน้องสาว มาอำพรางแทนตนเอง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ป.ป.ช. ติดตามแกะรอยจนพบ และเข้าทำการจับกุมตัวได้ในที่สุด
ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ข่าวการจับกุม นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ อดีตรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พิมาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 คดียักยอกเงินออกจากคลัง อบต.พิมาย รวมมูลค่าที่รัฐเสียหายกว่า 50 ล้านบาท เป็นทางการ
สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายณัฐวุฒ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 3 ได้มอบหมายให้ งานสืบสวนคดีทุจริต ภาค 3 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ทำการจับกุม นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ อดีตรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลพิมาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 คดียักยอกเงินออกจากคลัง อบต.พิมาย รวมมูลค่าที่รัฐเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาดและส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งผลให้ นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ ไหวตัว และมีพฤติการณ์หลบหนี โดยใช้วิธีการนำบัตรประชาชน และเอกสารหลักฐานแสดงตัวตนของพี่สะใภ้ มาอำพรางตนเอง ก่อนจะไปสมัครทำงาน “หนีซุกปีก” ทนายความคนดังรายหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่เป็นเสมียนทนายและเลขาคนสนิท
ในช่วงเวลา 07.00 น. เป็นเหตุบังเอิญที่ทนายความคนดัง รายนี้รับว่าความทำคดีให้กับผู้ถูกกล่าวหารายหนึ่งในเขตจังหวัดนครราชสีมา จึงมีความจำเป็นที่ทนายความคนดัง พร้อมเลขาคนสนิทรายดังกล่าว ต้องเดินทางมายัง สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3
เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ได้ดำเนินการแกะรอยและตรวจสอบข้อเท็จจริง จนกระทั่งยืนยันแล้วว่า “เลขาคนสนิทรายดังกล่าวนี้” คือ “นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ” บุคคลตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จริง แม้นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ จะทำทรงผม แต่งหน้าให้มีลักษณะเหมือนพี่สะใภ้ และอ้างตนว่าเป็นพี่สะใภ้
เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าว ซึ่งตอนแรก นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ ให้การปฏิเสธว่าตนไม่ใช่บุคคลตามหมายจับ แต่สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ฯ ก็ได้พูดคุยอธิบาย จนกระทั่ง ผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าวให้การยอมรับว่าตน คือ บุคคล ตามหมายจับ
ในช่วงเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 จึงได้นำตัว นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ ไปทำบันทึกการจับกุม ณ สภ.เมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะนำตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่สิ้นสุด นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชาชน พิมพ์พุทธชาติ และผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก