โชว์คำสั่ง อสส. ย้ายด่วน 'อัยการเมืองคอน' เรียกรับเงิน 2 แสน แลกล้มคดี ให้เข้ามาช่วยราชการสำนักงานคดีแรงงาน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.67 - อธิบดีฯภาค 8 ส่งสาส์นให้กำลังเพื่อน ร่วมงานที่เหลือ ยันเนื้อร้ายต้องถูกกำจัดออกไป
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. พร้อมหมายจับเข้าบุกจับกุมตัวนายชาตินรินทร์ เกตุกำพล พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ต้องหาวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้
ขณะที่ นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ออกมาระบุว่า ได้นำเรื่องกราบเรียนอัยการสูงสุดทราบเเล้ว ซึ่งหลังจากที่ อัยการสูงสุดทราบเรื่อง มีคำสั่งให้ดำเนินการย้ายอัยการคนดังกล่าวเข้ามาส่วนกลางโดยด่วน ภายในวันนี้ (31 ก.ค.) เเละยังได้สั่งการ นายฉัตรชัย ใจดี อธิบดีอัยการภาค 8 รายงานข้อเท็จจริงเข้ามาภายในเดียวกันด้วย
- 3 ป. สนธิกำลัง บุกจับ 'อัยการเมืองคอน' เรียกรับเงินผู้ต้องหา
- เฉียบขาด! อสส.สั่งย้ายด่วน 'อัยการเมืองคอน' เรียกรับเงิน 2 แสน แลกล้มคดี
- ชัดๆ ภาพชุดวินาที 'อัยการเมืองคอน' รับเงินผู้ต้องหาแลกล้มคดี ก่อนโดนรวบคาห้องทำงาน
- บิ๊กเต่าแจง จับอัยการเมืองคอน เป็นไปตามพยานหลักฐาน-ขณะ ก.อ.เดินหน้าสอบวินัยแล้ว
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา่ (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวสำนักงานอัยการสูงสุด ว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2567 นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ลงนามในคำสั่งให้ นายชาตินรินทร์ เกตุกำพล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช พ้นจากปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรองงาน และให้ช่วยราชการสำนักงานคดีแรงงาน ปฏิบัติราชการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีแรงงาน 1
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2567 เป็นต้นไป (ดูคำสั่งท้ายเรื่อง)
ขณะที่เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2567 นายฉัตรชัย ใจดี อธิบดีอัยการภาค 8 ได้เผยแพร่สาส์นถึงเพื่อนร่วมงาน ข้าราชการอัยการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานอัยการภาค 8
ระบุว่า "ตามที่สื่อสารมวลชนได้ลงข่าวการบุกจับอัยการท่านหนึ่ง ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่องการทุจริต ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ขวัญและกำลังใจของคนทำงาน ซึ่งประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และมุ่งมั่นแน่วแน่ต่อการเป็นข้าราชการที่ดี ที่จะผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม ตามเป้าหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด และของประเทศชาติ
ผมในฐานะผู้บริหารสูงสุดในภาค 8 จึงขอส่งกำลังใจถึงทุก ๆ ท่าน ขออย่าท้อแท้ อย่าหมดกำลังใจ ต่อการสร้างคุณงามความดี การให้บริการที่ดีกับประชาชน เราปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่า ในทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป ส่วนที่เป็นเนื้อร้ายต้องถูกกำจัดออกไป ผมหวังว่าความดีที่พวกเรามุ่งมั่นทำมาตลอดในทุก ๆ ด้าน จะยังผลให้ประชาชนไม่เสื่อมศรัทธาและเป็นที่พึ่งของประชาชนในการผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรมสืบไป"
สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนกรณีนี้ ในส่วนสำนักงานอัยการสูงสุด นั้น ก่อนหน้านี้ นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า ทันทีที่นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดทราบเรื่อง ได้สั่งย้ายนายชาตินรินทร์มาส่วนกลางทันที เพื่อสะดวกในการสอบสวน โดยได้ย้ายประจำสำนักงานคดีแรงงาน สำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีผลวันนี้ (1 ส.ค.2567) ขณะเดียวกันทางสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)ได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นด้านวินัยด้วยเเล้ว ซึ่งตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการปี 53 มาตรา 80 กำหนดให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งพักราชการได้เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายเเรง หรือมีการฟ้องคดีอาญาพนักงานอัยการคนนั้นเเล้วดังนั้น กรณีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนสอบข้อเท็จจริงขั้นต้นซึ่งตามมาตรา 74 ต้องดำเนินการให้เเล้วเสร็จใน 30 วัน จึงต้องรอขั้นตอนดังกล่าว
นายประยุทธยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีความผิดชัดเเจ้ง เเต่กฎหมายไม่ให้พักราชการทันทีซึ่งในประเด็นนี้ นายอำนาจ อัยการสูงสุดเเละผู้บริหารได้มีการเสนอเเก้กฎหมายในประเด็นข้อนี้ ซึ่งทางนายอำนาจได้มีการเสนอเเก้กฎหมายในประเด็นนี้มาก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้เพื่อให้สามารถสั่งพักราชการในกรณีความผิดชัดเเจ้งได้ เเละร่างกฎหมายนี้ได้ผ่านประชาพิจารณ์เรียบร้อยเเล้ว
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชนที่ต่อองค์กรอัยการ แต่อย่างไรก็ตามอัยการสูงสุดได้ให้ความมั่นใจ ให้ความสำคัญ มีมาตรการเด็ดขาดการดำเนินคดี และการสอบสวนวินัย ซึ่งทุกครั้งที่เกิดคดีทำนองนี้จะบังคับใช้กฎหมายโดยเด็ดขาดเป็นมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง"นายประยุทธย้ำ