"...ภาพชุดเหตุการณ์นี้ เป็นช่วงที่นายชาตินรินทร์ ได้มีการยืนมือไปรับมอบซองสีขาวที่มีผู้นำมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนที่จะหันตัวนำซองดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะทำงานของตนเอง ..."
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. พร้อมหมายจับเข้าบุกจับกุมตัวนายชาตินรินทร์ เกตุกำพล พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ต้องหาวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้ที่ปรากฏเป็นข่าวโด่งดังในขณะนี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า จุดเริ่มต้นคดีนี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้มาร้องเรียนกับสำนักสืบสวนฯ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ถูกอัยการในสำนักงาน อัยการจังหวัดนครศรีธรรมราชเรียกกลับเงิน 200,000 บาทแลกกับการฟ้องคดี ทางสำนักงานสืบสวนฯจึงขออนุมัติจากเลขาธิการ ป.ป.ช. ขยายผลลงพื้นที่สืบสวนจนได้พยานหลักฐาน จึงมีการนำผู้ต้องหาไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และนำพยานหลักฐานยื่นขอหมายจับจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งศาลฯ ออกหมายจับเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ผู้ต้องหาในคดีได้ นำเงิน 50,000 บาท ให้กับอัยการรายนี้ก่อนแล้ว
จากนั้นได้วางแผนร่วมกันให้ผู้ต้องหานำเงินไปมอบ 150,000 บาท กับนายชาตินรินทร์ เกดกำพล อัยการจังหวัดประจำสำนักอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในฐานะผู้กลั่นกรองคดี สำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช และนำกำลังเข้าจับกุมได้ที่ห้องทำงานในที่สุด
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับมอบภาพชุดเหตุการณ์ช่วงวินาทีการรับมอบเงิน 150,000 บาท ของ นายชาตินรินทร์ เกดกำพล จากผู้ต้องหาในห้องทำงาน ในคลิปวิดีโอที่มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้
ภาพชุดเหตุการณ์นี้ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่นายชาตินรินทร์ ได้มีการยืนมือไปรับมอบซองสีขาวที่มีผู้นำมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนที่จะหันตัวนำซองดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะทำงานของตนเอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุมได้ที่ห้องทำงานในที่สุด
สำหรับความคืบหน้าคดีนั้น ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช., ป.ป.ท. เข้าทำการจับกุมตัวนายชาตินรินทร์ ตามแผนการจับกุมตัวที่วางไว้ ได้มีการนำตัวนายชาตินรินทร์ ไปทำบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยว่า หลังได้รับทราบข่าวจากจากสื่อมวลชน ในเบื้องต้นได้นำเรื่องกราบเรียนอัยการสูงสุดทราบเเล้ว ซึ่งหลังจากที่ อัยการสูงสุดทราบเรื่อง มีคำสั่งให้ดำเนินการย้ายอัยการคนดังกล่าวเข้ามาส่วนกลางโดยด่วน ภายในวันนี้ (31 ก.ค.) เเละยังได้สั่งการ นายฉัตรชัย ใจดี อธิบดีอัยการภาค 8 รายงานข้อเท็จจริงเข้ามาภายในเดียวกันด้วย ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นเรื่องร้ายเเรงกระทบภาพลักษณ์ต้องดำเนินการเฉียบขาด
อย่างไรก็ดี คดีนี้ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาชี้ขาด นายชา่ตินรินทร์ ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ผลคดีนับจากนี้เป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป