เผยมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูล 'อานุภาพ เจิดรังษี' อดีตผจก.ส่วนวิศวกรรมโทรคมนาคมภูมิภาคที่ 5 ทีโอที อำเภอศรีราชา ชลบุรี คดีร่ำรวยผิดปกติ 8.6 ล้าน รวมทรัพย์สินชื่อ ลูก-เมีย 'เงินฝาก-ที่ดิน-เบนซ์ 2 คัน' ส่งสำนวน อสส. ฟ้องร้องดำเนินคดีตาม กม. ให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลคดีร่ำรวยผิดปกติ ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า ในช่วงปี 2566 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดคดีกล่าวหา นายอานุภาพ เจิดรังษี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้จัดการส่วนวิศวกรรมโทรคมนาคมภูมิภาคที่ 5 บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ร่ำรวยผิดปกติ
หลังตรวจสอบพบว่า นายอานุภาพ เจิดรังษี มีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบ เนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 8,665,186.43 บาท
ตามรายการดังต่อไปนี้
1. เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพัทยาใต้ ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายอานุภาพ เจิดรังษี จำนวน 1,050,000 บาท
2. เงินฝากธนาคารออมสิน สาขาแปซิฟิค พาร์ค ศรีราชา ประเภทเผื่อเรียกพิเศษ 5 เดือน ชื่อบัญชี นายอานุภาพ เจิดรังษี จำนวน 1,000,000 บาท
3. ที่ดิน ตำบลกระแจะ อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี จำนวน 1 แปลง ราคา 1,500,755 บาท
4. รถยนต์ยี่ห้อ MERCEDES BENZ จำนวน 1 คัน ราคา 1,200,000 บาท
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางคณึงนุช เจิดรังษี ได้แก่
1. เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศรีราชา ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นางคณึงนุช เจิดรังษี จำนวน 300,000 บาท
2. ที่ดิน ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จำนวน 2 แปลง ราคารวม 200,000 บาท
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของลูกของนายอานุภาพ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล)จำนวน 3 รายการได้แก่
1. ห้องชุดลุมพินีปาร์ค ปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 ห้อง ราคา 2,169,798.41 บาท
2. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA จำนวน 1 คัน ราคา 144,633.02 บาท
3.รถยนต์ยี่ห้อ MERCEDES BENZ จำนวน 1 คัน ราคา 1,100,000 บาท
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งลงโทษไล่ออกผู้ถูกกล่าวหาภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่
หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปีด้วย
ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ในการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการ ร่ำรวยผิดปกติ และเพื่อประโยชน์ในการบังคับคดี ให้ขอให้อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องขอต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อคู่สมรสและบุตรที่ถือครองแทนไว้ก่อนพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 254 (1) ประกอบพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มาตรา 6
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า ปัจจุบันศาล มีคำพิพากษาคดีร่ำรวยผิดปกติของ นายนายอานุภาพ เจิดรังษี ไปแล้วหรือไม่
ขณะที่ การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก