‘พล.อ.เกรียงไกร’ คว้าเก้าอี้รองประธานวุฒิฯคนที่ 1 หลัง สว.โหวต 150 เสียง พบปัญหาวุ่นช่วงขานคะแนนพบบัตรเกินต้องนับใหม่อีกรอบ จึงแล้วเสร็จ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ในการประชุมวุฒิสภา (สว.) นัดแรก เพื่อเลือกตำแหน่ง ประธานและรองประธาน สว. โดยมี พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สว.ที่อายุสูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว หลังจากที่ได้มีการเลือกประธาน สว.คนใหม่ ซึ่งนายมงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกจากคะแนนเสียง 159 เสียงนั้น
ในช่วงบ่าย เข้าสู่การคัดเลือกรองประธาน สว.คนที่ 1 โดยมีการเสนอรายชื่อ 4 คน ประกอบด้วย พล.อ.เกีรยงไกร ศรีรักษ์, นายนพดล อินนา, นายปฏิมา จีระแพทย์ และนายแล ดิลกวิทยรัตน์ ซึ่งที่ประชุมได้ให้ทั้ง 4 คนแสดงวิสัยทัศน์คนละ 5 นาที
จากนั้นที่ประชุมให้ลงคะแนนโหวตลับ ด้วยการเขียนรายชื่อบุคคลที่เห็นควรได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภาลงในกระดาษพร้อมใส่ลงไปในซองสีชมพูก่อนที่จะหย่อนลงหีบบัตรเลือกตั้ง โดยเรียงชื่อตามอักษรจนครบจากนั้นได้มีการขานคะแนนอย่างเปิดเผย
@มีบัตรเกิน ต้องนับใหม่
แต่ปรากฎว่าระหว่างนับคะแนนพ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว.ในฐานะตัวแทนกรรมการผู้ขานชื่อนับคะแนน ได้ขานชื่อมาถึงคนที่ 200 ปรากฎว่า ใบลงคะแนนได้เขียนเป็นตัวเลข จึงขานว่าเป็นบัตรเสีย แต่ พ.ต.อ.กอบ ได้ขานต่อจากนั้นว่ามีงดออกเสียงมาอีก 1 เสียง ทำให้มีสมาชิกเกินมาเป็น 201 คน
ทางประธานที่ประชุมฯ จึงแจ้งว่า มีข้อผิดพลาด พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่เริ่มนับคะแนนใหม่ แต่ก็มีสมาชิกท้วงว่า หน้าจอแสดงผลการนับคะแนน ไม่ได้แสดงผลคะแนนที่งดออกเสียง ก็เท่ากับว่าลงคะแนนครบทั้ง 200 คนแล้ว
ด้าน นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว.ลุกขึ้นหารือว่า แม้ว่าจะมีคะแนนเกินมา 1 เสียง แต่ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ที่ได้รับเลือก จึงอยากขอให้เพียงรีเพลย์ภาพย้อนกลับไปดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าหากมีการกลับไปเริ่มนับคะแนนใหม่จะทำให้เสียเวลาไปมากกว่านี้
แต่ทาง พล.ต.ท.ยุทธนา ในฐานะประธานการประชุมชั่วคราว ชี้แจงว่า การลงคะแนนจะมีการบันทึกเป็นหลักฐาน ถ้าหากว่าบันทึกไปแล้วมีความผิดพลาด จะทำให้วุฒิสภาเสื่อมเสียได้ ซึ่งมีสมาชิกบางส่วนเห็นด้วยให้เริ่มนับคะแนนใหม่ เพื่อสร้างมาตราฐานคงามโปร่งใส ทั้งนี้ มีสมาชิกอีกบางส่วนพยายามเสนอให้แยกไปนับคะแนนเป็นการเฉพาะตรงจุดที่มีปัญหาแบบเป็นการภายใน เพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลาไปเริ่มนับคะแนนใหม่ แต่ท้ายที่สุดแล้วประธานที่ประชุมจึงมีมติสั่งเริ่มนับคะแนนใหม่ ซึ่งเริ่มนับคะแนนใหม่ตั้งแต่ลำดับที่ 1 ในเวลา 15.38 น.
@เปิดวิสัยทัศน์ รองปธ.วุฒิฯ 1
จนกระทั่งเวลา 16.09 น. ประธานในที่ประชุมประกาศว่า พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 150 คะแนน ได้เป็นรองประธานสว.คนที่ 1 ขณะที่คะแนนคนอื่นๆ นายแล ดิลกวิทยรัตน์ ได้ 15 คะแนน นายนพดล อินนา ได้ 27 คะแนน และนายปฏิมา จิระแพทย์ได้ 5 คะแนน
โดยในการแสดงวิสัยทัศน์ พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า 1.จะยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ และธำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เทิดทูนและปกป้องสถาบันจนกว่าชีวิตจะหาไม่ 2. ให้ความเชื่อมั่นต่อสมาชิกในการทำงานทางการเมือง และองค์กรอิสระด้วยความเที่ยงธรรมเป็นอิสระเป็นกลาง เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ และรัฐสภาแห่งนี้เป็นหลักในการดำเนินการให้เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง
3. ความเชื่อมั่นต่อเพื่อนสมาชิกที่จะทำหน้าที่ร่วมกัน จะยึดมั่นในเกียรติของเพื่อนสมาชิกทุกคนรับฟังความคิดเห็น ในการดำเนินงานกิจการที่เกี่ยวข้องกับวุฒิสภาอย่างเท่าเทียมกัน เคารพเสียงส่วนใหญ่และรับฟังรวมถึงไม่เพิกเฉยต่อเสียงส่วนน้อยที่เห็นต่าง 4. ยืนยันจากทำงานเพื่อให้วุฒิสภาเป็นที่ยอมรับเชื่อมั่นศรัทธาแก่ประชาชน
5. ให้ความสำคัญต่อกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเข้ามาทำงานร่วมกัน และรับฟังความเห็นจากประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา และ 6. ขอสัญญาว่าจะทำในสิ่งที่ดีงามเพื่อให้วุฒิสภาเป็นสภาอันทรงเกียรติที่มีเพื่อนสมาชิกร่วมกัน ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชน