ป.ป.ช.ตีตก 2 คดีร่ำรวยผิดปกติ-'เจษฎา อังศุพาณิชย์' อดีตผอ.โครงการส่งน้ำเพชรบุรี-ส่งสรรพากรสอบภาษี 'ปัญญา ไกรสิงห์เดชา' อดีตเลขานุการนายกอบจ.ราชบุรี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 7 เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาไม่มีมูล/ตกไป กรณีเกี่ยวกับร่ำรวยผิดปกติของนายปัญญา ไกรสิงห์เดชา อดีตเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี และนายเจษฎา อังศุพาณิชย์ อดีตผู้อำนวยการโครงการชลประทานและผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี
มีรายละเอียดดังนี้
@ ตีตกคดีอดีตเลขานุการนายกอบจ.ราชบุรี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 128 ล้านในเวลา 2 ปี
เรื่องที่ 1 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง จากการไต่สวนเบื้องต้นกรณีกล่าวหา นายปัญญา ไกรสิงห์เดชา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม 2554 ถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2556 ขณะที่นายปัญญา ไกรสิงห์เดชา ดำรงตำแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี มีรายการทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย เงินฝากหมุนเวียนในบัญชี และเงินลงทุน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 128,933,698.73 บาท คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง ว่าไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่านายปัญญา ไกรสิงห์เดชา ผู้ถูกกล่าวหา มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป สำหรับรายการทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกรณีที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจด้านก่อสร้างและด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อจำหน่ายหรือให้เช่า ให้ส่งเรื่องให้กรมสรรพากรเพื่อดำเนินการทางภาษี ต่อไป
@ ตีตกคดีอดีตผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ได้สิทธิครอบครองที่ดิน 53 ไร่-มีเงินเข้าบัญชี 22 ล้าน
เรื่องที่ 2 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง จากการไต่สวนเบื้องต้นกรณีกล่าวหา นายเจษฎา อังศุพาณิชย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการชลประทาน และผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า นายเจษฎา อังศุพาณิชย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการชลประทาน เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2552 ถึงวันที่ 22 กันยายน 2557 และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 และปรากฏข้อเท็จจริงต่อมาว่านายเจษฎา อังศุพาณิชย์ ได้กรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในที่ดิน ในระหว่างดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการดังกล่าว จำนวน 10 แปลง เนื้อที่ 53 ไร่ 3 งาน 71 ตารางวา ราคาประเมิน 10,923,030 บาท และได้มีเงินฝากเข้ามาในบัญชีเงินฝากของนายเจษฎา อังศุพาณิชย์ จำนวน 4 บัญชี ระหว่างดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการดังกล่าว เป็นเงินจำนวน 22,900,000 บาท นอกจากนี้ นายเจษฎา อังศุพาณิชย์ ยังมีการชำระหนี้ให้กับธนาคารออมสิน จำนวน 2 บัญชี เป็นเงินจำนวน 1,975,915.22 บาท คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง ว่าไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่านายเจษฎา อังศุพาณิชย์ ผู้ถูกกล่าวหา มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป