'สมศักดิ์'ยันดึง 'กัญชา' กลับเป็นยาเสพติด ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ไม่เกี่ยวข้องนายทุน เผยชงเข้าบอร์ด ป.ป.ส. คาดรู้ผลสิ้นเดือนนี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ว่า ตอนนี้ผ่านเรื่องแล้ว และต้องเอาเข้าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (กรรมการ ป.ป.ส.) ซึ่งต้องส่งเรื่องให้พิจารณก่อนการประกาศสารหรือพืชชนิดใดเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5
โดย รมว.สาธารณสุข จะเป็นผู้ประกาศได้เอง ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจาก ป.ป.ส. ก่อนซึ่งคาดว่าจะประชุมกันสิ้นเดือนก.ค.นี้ หากเห็นว่าเป็นยาเสพติด ต้องทำกฎหมายรอง กฎกระทรวง และประกาศอีก 4 ฉบับ ที่รวมถึงการปลูก และต้องนำเข้า คณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่การประกาศเป็นยาเสพติดประเภท 5 ไม่ต้องเข้า ครม. เพราะเรื่องยาเสพติดมีอันตราย มีความเกี่ยวข้องกับผู้คน กฎหมายจึงเขียนให้รัฐมนตรีกระทำโดยเร็ว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ประมวลกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 เป็นระยะเวลา 2 ปีกว่าแล้ว ถือเป็นกฎหมายหลัก และต้องมีกฎหมายลูกตามมา ซึ่งต้องทำให้เสร็จภายใน 2 ปี วันนี้น่าจะสมบูรณ์ แต่เนื่องจากเราออกกฎหมายรอง หรือ พ.ร.บ.ไม่เสร็จ เพราะการเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้นกฎหมายไม่ผ่านจึงจบไม่ทันเวลา และสามารถต่อได้อีก 1 ปีโดยจะครบกำหนดวันที่ 9 ธ.ค.นี้ คือ พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การทำร่างกฎหมาย และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายปี 2562
ดังนั้น เมื่อทำไม่ทันแล้วจึงต้องรีบออกประกาศมายับยั้ง ตนคิดว่าถ้าเราเห็นว่ากัญชามีปัญหา คนส่วนใหญ่เห็นว่ายังเป็นปัญหา จึงใช้แนวทางในการออกประกาศว่าเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 เพื่อให้ทันเวลาในกรอบระยะเวลา 2 + 1 ปี ตามเงื่อนไขกฎหมาย โดยหากจะออกเป็นกฎหมายก็ไม่สามารถทำทัน เพราะการออกกฎหมายแต่ละฉบับใช้เวลา 2 ปี ย้ำว่าแก่นของปัญหาคือพี่น้องประชาชนที่บริโภคกัญชาเหล่านี้ มีไอคิวลดลง คนส่วนใหญ่ยังกลัวอยู่
“เราไม่ได้ปิดกั้นเป็นยาเสพติดตลอดไป ถ้าในโอกาสหน้า รัฐบาลหน้า หรือการออกกฎหมาย ไม่ใช่เฉพาะกฎหมายของรัฐบาล พี่น้องประชาชนทุกคนเป็นหมื่นคนก็ลงรายชื่อเพื่อเสนอเป็นกฎหมายได้ และสส.ในสภาผู้แทนราษฎรสามารถเสนอกฎหมายได้ เป็นกฎหมายในนามของพรรคการเมือง ก็สามารถเสนอได้ แต่ในส่วนของรัฐบาลเรามองเห็นว่าผลเสียมากกว่าผลดี” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนายทุนใหญ่ที่มีการสั่งมาตามที่ผู้ชุมนุมหน้าทำเนียบอ้าง แต่เอื้อประชาชนโดยรวม กลุ่มผู้ชุมนุมวันนี้ ตนเคยเจอมาแล้ว ซึ่งต้องการนันทนาการ สันทนาการ สำหรับคนป่วยที่ต้องการใช้กัญชาต้องให้เข้าถึงได้ ไม่ยุ่งยาก แต่วิธีการขึ้นอยู่กับผู้ที่เขียน
เมื่อถามว่าจะเกิดปัญหากับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ เพราะเป็นนโนบายเรือธง นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหาพรรคร่วม หรือพรรคภูมิใจไทย เพราะเข้าใจเงื่อนไขของเวลา ตนไม่ได้ขัดแย้ง ตนเอาใจช่วยมาแต่แรกแล้ว แต่ไปแล้วไม่ผ่าน ก็ไม่ใช่ความผิดของตน จึงต้องรับผิดชอบต่อสังคม
“หากนำกัญชา กลับไปเป็นยาเสพติด จะไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ และผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวจากคดีที่ครอบครองกัญชา เนื่องจากมีกฎหมายในการคุ้มครองผู้ประกอบการเพียงแค่ยื่นเจตจำนงไว้ ก็ถือว่ามีใบอนุญาต” นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าหากผู้ชุมนุมยืนยันปักหลักหน้าทำเนียบรัฐบาลจนกว่าจะได้ความชัดเจน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เขาต้องการใช้ในด้านนันทนาการ เราได้เรียนไปตามข้อเท็จจริงแล้ว และได้ให้แนวทางของแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก ก็มีอำนาจหน้าที่ในสิ่งต่างๆ ที่เรากำลังเขียนขึ้นมา และการที่จะเข้าสู่คณะกรรมการ ป.ป.ส. หากมีข้อสงสัยให้สอบถามได้ที่ อย.