กกต.ซักซ้อมการเลือก สว.ระดับจังหวัดแล้ว ‘แสวง’ ระบุลักษณะความผิดในการเลือก สว.มี 3 แบบ มั่นใจยังได้ สว. 200 คน ไม่มีล้ม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 มิถุนายน 2567 นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงถึงการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า เมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) มีการซักซ้อมผอ.การเลือก สว.ระดับจังหวัด 3 เรื่องคือ
1. ความเรียบร้อย ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน และความเสมอภาคของผู้ปฏิบัติ เพราะกกต.ได้ลงพื้นที่ และเห็นว่า ยังมีการปฏิบัติที่แตกต่างกัน จึงต้องเน้นย้ำ
2. เป็นข้อสังเกตการณ์ที่พบว่า มีการปฏิบัติที่ไม่เหมือนกัน เช่น การตั้งหีบบัตร ซึ่งหลายอำเภอมีกลุ่มอาชีพที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว แต่เมื่อเข้าสู่รอบไขว้ พบมีการตั้งหีบสำหรับลงคะแนนเฉพาะกลุ่มในสาย ซึ่งอาจทำให้การลงคะแนนของกลุ่มที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียวไม่เป็นความลับ แต่ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อเข้าสู่การเลือกระดับจังหวัดเพราะแต่ละกลุ่มอาชีพมีผู้สมัครเกินกว่า 1 คน เชื่อว่า เมื่อมีการซักซ้อมกันแล้ว การเลือกระดับจังหวัดจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
นอกจากนี้เพื่อความเรียบร้อยการเลือกระดับจังหวัด จึงกำหนดให้มีการเลือกรอบแรกและรอบไขว้ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
โดยผู้สมัครสามารถแนะนำตัวต่อกันได้แต่เน้นให้เป็นระเบียบ ไม่เดินขวักไขว่
@ 3 ลักษณะความผิดในการเลือก สว.
ขณะที่นายแสวง กล่าวถึงความผิดว่า ในการเลือกสว. ตามกฎหมายว่า มี 3 ลักษณะ
1. การรับสมัคร คือรู้ว่า ตัวเองไม่มีสิทธิลงสมัครแต่ก็ยังสมัคร มีการรับรองเอกสารเป็นเท็จ และรับจ้างสมัคร สิ่งที่กกต.ทำคือเมื่อมีการตั้งข้อสังเกตจากสังคม ผอ.ได้มีการสอบถามในวันที่มาสมัคร ว่ามีใครจ้างมาสมัครหรือไม่ จนทำให้บางรายรู้สึกไม่ดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังประมวลผลข้อมูลอยู่
2. กระบวนการและการดำเนินการเลือก พบว่า มีความผิดในการลงคะแนน นับคะแนน ซึ่งมีคำร้องที่กกต.กำลังเร่งพิจารณาให้เสร็จก่อนการเลือกระดับจังหวัด รวม 8 เรื่อง
และ 3. การเลือกที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม คือการยอมให้พรรคการเมืองมาช่วยหาเสียง มีการให้เงิน ให้ทรัพย์สิน และมีการร้องเท็จ เรียกรับผลประโยชน์เพื่อเลือก หรือไม่เลือก
ส่วนกรณีการฮั้ว การขอคะแนนกัน เดิมเรามีกฎหมายที่จะใช้ดำเนินการ 2 ฉบับ คือกฎหมายเลือกสว. และระเบียบกกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกส.ว. แต่ปัจจุบันนิยามคำว่าแนะนำตัวตามระเบียบนี้ศาลปกครองสั่งยกเลิกไป จึงเหลือเพียงกฎหมายมาตรา77อย่างเดียวที่เอามาจับได้ คือ ต้องให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด
"ถ้าดูพฤติการณ์ที่ผ่านมา ใส่เสื้อสีเดียวกัน บริษัทเดียวกันชักชวนกันมา หรือเมื่อมีการลงคะแนนแล้วพบว่า ผู้สมัครได้ 0 คะแนน สำนำงานไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งให้จังหวัดตรวจสอบและรายงานมา แต่คงจะไปตรวจสอบจนตั้งเป็นสำนวนไม่ได้ เพราะกฎหมายกำหนดว่า ไม่จำเป็นต้องเลือกตัวเองก็ได้ ทั้งนี้หากผู้สมัคร หรือประชาชนเห็นว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดมาตรา 77 ก็สามารถร้องเรียนได้ ขณะเดียวกัน กกต.มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่มีการติดตามการเลือก เพราะสำนักงานให้ความสำคัญกับการเลือกที่สุจริตและเที่ยงธรรม " เลขาธิการ กกต.กล่าว
@ไม่ชัดผู้สมัครเดินสายร้องเรียน ขัดกม.แนะนำตัว / ไม่รู้การตั้งหีบแยก ผู้สมัครเดียว
เมื่อถามว่ามีผู้สมัครใช้วิธีเดินสายร้องเรียนตามที่ต่างๆ โดยมีเจตนาให้ตนเองเป็นที่รู้จัก เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า การแนะนำตัวที่ไม่ผิดระเบียบ หรือกฎหมาย สามารถทำได้อยู่แล้ว ส่วนที่มีการร้องเรื่องสถานที่สังเกตการณ์ และการติดตั้งวงจรปิดมีภาพไม่มีเสียง สำนักงานได้ในการกำชับตามคำสั่งของอบตให้มีการจัดสถานที่สังเกตการณ์ใกล้กับสถานที่เลือกสามารถมองเห็นได้ชัด มีกล้องวงจรปิดที่สามารถเก็บเสียงไว้ได้ แต่พื้นที่สังเกตการณ์จะไม่ได้ยิน
เมื่อถามว่า มีการร้องเรียนการเลือกระดับอำเภอในสายที่มีกลุ่มอาชีพซึ่งมีผู้สมัครเพียงคนเดียว และตั้งหีบแยกไว้ เมื่อมีการขานคะแนนทำให้การเลือกไม่เป็นความลับ นายแสวง กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลนี้ จึงขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนกรณีบางพื้นที่มีผู้พิการเกิดอุบัติเหตุ ก็กำชับเรื่องการจัดสถานที่ ซึ่งเชื่อว่า สถานที่เลือกระดับจังหวัดจะดีกว่าระดับอำเภอ ส่วนกรณีที่มีคนตั้งคำถามว่า เหตุใดมีคนไม่มีรายชื่อสามารถเข้ารับการเลือกสว.ระดับอำเภอได้ ก็เป็นเพราะบางคนศาลฎีกาคืนสิทธิให้ ทางผอ.การเลือกจึงเพิ่มชื่อเข้าไป ส่วนระดับจังหวัดที่กำลังจะเลือกนี้ ก็จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม หากพบใครไม่มีคุณสมบัติ ก็สามารถคัดชื่อออกได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากใครถูกคัดชื่อออกก็สามารถร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 3 วัน แต่กรณีเช่นนี้มีน้อยมาก
@ผู้สมัครร้องเรียนตามมาตรา 64 ได้
ด้าน นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวย้ำว่า ผู้สมัคร สว.คนใดถ้าเห็นว่าการเลือกไม่ได้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมี 3 กรณีสามารถที่จะร้องคัดค้านได้ตามมาตรา 64 แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นผู้สมัคร ส่วนการพิจารณาคำร้อง กกต.พิจารณาทุกวัน ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคำร้องค้าง
เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัย 4มาตราพ.ร.ป.ว่าด้วยกันได้มาซึ่งสว.ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ในวันที่18มิ.ย.จะส่งผลต่อการเลือกสว.ที่ดำเนินการไปแล้วหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ต้องรอฟังคำสั่งศาล ซึ่งหากผลเป็นลบ ทางกกต.ได้มีมาตรการก็รองรับทุกประตู แต่ยังบอกรายละเอียดไม่ได้ ขอให้รอดูวันที่ศาลพิพากษา ซึ่งเรารอมาได้ 7 วัน ให้รออีก 7 วันก็รอได้
เมื่อถามว่า กกต.ยังมั่นใจใช่หรือไม่ ว่าจะได้สว. 200 คน เพราะมีการวิเคราะห์สถานการณ์ขณะนี้ว่าจะมี 3 ล้มกระดาน คือล้มพรรคก้าวไกล ล้มเศรษฐา และล้มการเลือกสว.นายฐิติเชฏฐ์ กล่าวว่า อันนั้นเป็นการคาดเดา แต่เรามีแผนไว้แล้วว่าได้สว. 200 คนไว้แล้ว เราจะดำเนินการอย่างไร เราจะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ไม่ต้องกลัว