ศาล ปค.สูงสุดนัด 4 มิ.ย.ไต่สวนเหตุ ป.ป.ช.ไม่ยอมเผยรายการคดีนาฬิกาประวิตรจำนวน 3 รายการให้ครบถ้วน ขณะ 'วีระ' โพสต์เฟซซัด จนท. ป.ป.ช.พยายามส่งเอกสารคดีนาฬิกาหรู 3 รายการไปที่บ้าน ตอนเจ้าตัวไม่อยู่ ทั้งที่เกินกำหนดวันที่ 27 พ.ค. ไปแล้ว ยืนยันเป็นเอกสารสำคัญ ให้ญาติเซ็นรับแทนไม่ได้ ย้ำเอกสารทั้ง 3 รายการต้องไปส่งมอบที่ศาลปกครองกลางวันที่ 4 มิ.ย. เท่านั้น ชี้ัชัดความพยายามส่งเอกสารวันนี้เป็นข้อบ่งชี้ ป.ป.ช.ไม่ยอมทำตามคำพิพากษาศาลปกครอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ในช่วงเย็น สำนักงานศาลปกครองได้ออกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ใจความว่าวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2567 เวลา 9.30 น. ศาลปกครองกลางนัดไต่สวน ในคดีหมายเลขดำที่ 2605/2562 หมายเลขแดงที่ 1 326/2564 ระหว่าง นายวีระ สมความคิด (ผู้ฟ้องคดี) กับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน(ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ในกรณีไม่ยอมเปิดเผยเอกสารรายการคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จำนวน 3 รายการให้ครบถ้วน โดยไต่สวน ณ ห้องพิจารณาคดี 10 ชั้น 3 อาคารศาลปกครองถนนแจ้งวัฒนะ
โดยคดีนี้นายวีระผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ 1กับพวก รวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องดดี) ละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมาย กรณีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย มีคำวินิจฉัยให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร กรณีการกล่าวหาพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จำนวน 3 รายการ ได้แก่ 1. รายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด 2. ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ทุกคน ที่รับผิดชอบในเรื่องกล่าวหาดังกล่าว และ 3. รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เพิกเฉย จึงนำคดีมาฟ้อง (ดูเอกสารข่าวแถลงประกอบ)
อนึ่งก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งความคืบหน้าการทวงถามเอกสารรายการคดีนาฬิกา จำนวน 3 รายการจากป.ป.ช. ระบุว่าวันนี้ (31 พ.ค.) เจ้าพนักงาน ป.ป.ช. จากสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ของสำนักงาน ป.ป.ช. จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปที่บ้านของนายวีระ สมความคิด(ผู้ฟ้องคดี ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีแดงที่ 224/2566) ซึ่งขณะนั้น นายวีระไม่อยู่ เนื่องจากเดินทางไปที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อตรวจสอบกรณีมีการกล่าวหา ป.ป.ช. สุพรรณบุรี เจ้าพนักงาน ป.ป.ช. อ้างว่าได้นำเอกสารตามคำบังคับของศาลปกครองไปให้ และขอให้ญาติของนายวีระ เซ็นรับมอบเอกสารดังกล่าว
ญาติของนายวีระ จึงรีบติดต่อหานายวีระทันที เมื่อนายวีระได้สอบถามกับเจ้าพนักงานของสำนักงาน ป.ป.ช.ที่นำเอกสารไปส่งให้ นายวีระจึงแจ้งว่าคนอื่นรับแทนไม่ได้ เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญ นอกจากนี้เอกสารทั้ง 3 รายการดังกล่าว ทาง ป.ป.ช. ได้เคยมีหนังสือเรียกให้นายวีระ ต้องไปรับด้วยตัวเองที่สำนักงาน ป.ป.ช. ที่สำคัญขณะนี้ได้เกินเวลา 15 วัน ตามที่ศาลปกครองได้มีคำสั่งคำบังคับต่อ ป.ป.ช.แล้ว นายวีระ จึงแจ้งให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ช. ไปรายงานต่อเลขาธิการ ป.ป.ช. ให้นำเอกสารชุดดังกล่าวนี้ ไปมอบให้ต่อศาลปกครองกลาง ในวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2567 เวลา 09.30 น. ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีหมายเรียกคู่ความ ไปทำการไต่สวนฉุกเฉินเป็นกรณีพิเศษ เกี่ยวกับกรณีที่ ป.ป.ช. ยังไม่ยอมส่งมอบเอกสารทั้ง 3 รายการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ให้แก่นายวีระ(ผู้ฟ้องคดี)อย่างถูกต้องครบถ้วน
สิ่งที่ ป.ป.ช. เคยปฏิบัติกับนายวีระ(ผู้ฟ้องคดี) เกี่ยวกับการส่งมอบเอกสารตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีดังกล่าวที่ผ่านมา มีดังนี้
ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 เมื่อครั้งที่ส่งมอบเอกสารทั้ง 3 รายการบางส่วน แก่นายวีระ เป็นครั้งแรก โดยยืนยันว่าได้มอบเอกสารทั้ง 3 รายการ แก่นายวีระ(ผู้ฟ้องคดี) อย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว
ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เมื่อครั้งที่ส่งมอบเอกสารทั้ง 3 รายการ แก่นายวีระ เป็นครั้งที่ 2 โดยยืนยันว่าได้มอบเอกสารทั้ง 3 รายการ แก่นายวีระ(ผู้ฟ้องคดี) อย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว
ครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ ป.ป.ช. ต้องส่งมอบเอกสารให้แก่นายวีระ อย่างถูกต้องครบถ้วน ตามที่ศาลปกครองได้มีคำบังคับคดี โดยในวันดังกล่าวนี้ ป.ป.ช. ได้ยืนยันว่าได้มอบเอกสารทั้ง 3 รายการให้แก่นายวีระ(ผู้ฟ้องคดี) อย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว
ทั้ง 3 ครั้งดังกล่าว นายวีระ ต้องเดินทางไปรับเอกสารด้วยตนเองที่สำนักงาน ป.ป.ช. และต้องตรวจเอกสารทั้งหมด ก่อนที่นายวีระ(ผู้ฟ้องคดี) และป.ป.ช.(ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง) จะทำการลงนามในเอกสารรับมอบทุกครั้ง แต่ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 นี้ ป.ป.ช. กลับจะมายัดเยียดให้คนอื่นเป็นผู้รับเอกสารทั้ง 3 รายการดังกล่าวแทนนายวีระ สมความคิด ที่สำคัญไม่ต้องมีการทำหนังสือส่งมอบเอกสารทั้ง 3 รายการดังกล่าวด้วย
“ในเมื่อ ป.ป.ช. ได้ยืนยันว่าได้ส่งมอบเอกสารทั้ง 3 รายการ ให้แก่นายวีระ สมความคิด(ผู้ฟ้องคดี) อย่างถูกต้องครบถ้วนแล้วตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 แล้วทำไมในวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 คือวันนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติมอบเอกสารทั้ง 3 รายการให้อีก ทั้งๆที่มันได้เกินกำหนดเวลาตามที่ศาลปกครองได้มีคำบังคับเอาไว้แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้เชื่อได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้กระทำความผิดซ้ำๆกันและทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ มันคือใบเสร็จและหลักฐานที่ยืนยันว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองมีเจตนาปกปิดและบังอาจท้าทายกฎหมาย ไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลมาโดยตลอด และที่สำคัญมันเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว ไม่สามารถที่จะมีอำนาจตามกฎหมายใดมาช่วยให้หลุดพ้นจากความผิดไปได้ จำเป็นต้องได้รับโทษตามกฎหมายแต่เพียงสถานเดียวเท่านั้น” นายวีระกล่าว