'คมนาคม' เตรียมผลักดันร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วมเข้า ครม. ต้นเดือน มิ.ย.นี้ ก่อนนัดฝ่ายที่เกี่ยวข้องสแกนร่างรอบสุดท้าย 6 มิ.ย.นี้ กางไทม์ไลน์หลังครม.จบ ส่งกฤษฎีกาตรวจทาน ก่อนส่งกลับรัฐบาลเสนอ สส.-สว. พิจารณา คาดปลายปี 68 ประกาศใช้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ความคืบหน้าการผลักดันร่าง พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม
โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้นัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม (คนต.) วันที่ 6 มิ.ย.นีั เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยคาดว่าจะเสนอได้ภายในเดือน มิ.ย. 2567
ขั้นตอนหลังจากนั้น เมื่อครม.เห็นชอบแล้ว จะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนส่งกลับมาที่ ครม. เพื่อเสนอไปที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตรมขั้นตอน โดยกรอบเวลาที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะพิจารณาคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งน่าจะเสนอไปที่สภาผู้แทนราษฎรได้เร็วสุดปลายปี 2567 หรืออย่างช้าไม่เกินต้นปี 2568
ส่วนขั้นตอนในการพิจารณาของรัฐสภา คาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพราะเมื่อเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร (สส.) แล้ว จะต้องพิจารณาผ่านร่าง 3 วาระ โดยเมื่อผ่านวาระแรกแล้วก็ต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณามีกรอบเวลาประมาณ 90 วัน ก่อนที่จะโหวตในวาระ 2-3 และไปต่อที่วุฒิสภา (สว.) พิจารณาอีก 3 วาระ ก่อนทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป โดยน่าจะมีผลช่วงปลายปี 2568
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ....ที่กำลังจัดทำมีจำนวน 45 มาตรา พ.ร.บ.นี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 37 และมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้ โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อกำกับดูแลการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้การบริการขนส่งสาธารณะมีความสะดวกและรวดเร็ว รวมทั้งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน และมีปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธาน กำหนดให้มีกรรมการโดยตำแหน่ง ประกอบด้วย ได้แก่ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมการขนส่งทางราง อธิบดีกรมเจ้าท่า เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถหรือประสบการณ์ด้านการเงิน ด้านการตลาด ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านวิศวกรรมศาสตร์ หรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์ต่อระบบตั๋วร่วม จำนวนไม่เกินสามคน
ให้ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้มอบหมายข้าราชการของสำนักงานจำนวนสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ