‘เศรษฐา’ รับกังวลกรณีถูกร้องแต่งตั้ง ‘พิชิต ชื่นบาน’ ส่อขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี เตรียมหารือฝ่ายกฎหมายช่วงหยุดสุดสัปดาห์นี้ และยังไม่มีแผนสำรอง ด้าน ‘แพทองธาร’ ยังไม่พร้อมนั่งนายกฯถ้า ‘เศรษฐา’ หลุดจากตำแหน่ง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากรับคำร้องของ 40 สว. กรณียื่นถอดถอนจากตำแหน่งปมเสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี และมีมติเสียงข้างมากไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรี
โดยผู้สื่อข่าวถามว่าได้ดูเอกสารเรื่องดังกล่าวแล้วหรือยัง นายเศรษฐาระบุว่า ได้ดูแล้ว เดี๋ยวจะต้องคุยกับทนายในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ ต้องคุยกับทีมงานที่จะทำเรื่องให้ไปตอบศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่าเรื่องนี้เป็นเกมการเมืองหรือเป็นการวางยา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากจะมองอย่างนั้น แต่มองว่าเราเข้าสู่การเมืองแล้ว อย่างที่บอกเมื่อวันที่ 23 พ.ค.นี้ ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ตอบคำถามฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการ ถ้ามีข้อสงสัยก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องตอบ และก็มั่นใจในเรื่องที่เราทำมาว่าถูกต้อง แต่ก็ไม่อยากจะพูดเยอะไป ต้องให้เกียรติศาลรัฐธรรมนูญด้วยเหมือนกัน ขอเตรียมข้อมูลก่อน
@กังวลทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลอะไรใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องของความกังวลตนตอบหลายครั้งแล้ว มีคนถามเยอะ ซึ่งตนกังวลทุกเรื่อง เพราะอยู่ตรงนี้เป็นเรื่องของความเป็นอยู่ประชาชน เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียม และปัญหาที่ สว.ไปร้องกับศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นความกังวลแน่นอน
เมื่อถามว่า ทางสภาอุตสาหกรรมได้ออกมาแสดงความกังวลว่าอาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่น ตรงนี้นายกฯจะทำอย่างไรให้เกิดความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรม นายเศรษฐากล่าวว่า ตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นประเด็นเหมือนกัน เรื่องที่จะทำได้ปัจจุบันคือต้องทำงานต่อไป และชี้แจงว่ารัฐบาลก็ยังมูฟออนกับนโยบายต่างๆที่เราทำอยู่
เมื่อถามว่า นายกฯจะใช้ฝ่ายกฎหมายจากส่วนไหนบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็คงใช้หลายส่วน หลายคน เดี๋ยวต้องขอไปปรึกษากันก่อนในวันที่ 25 พ.ค. เพราะยังไม่ได้เจอกันเลยตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
เมื่อถามว่า นายกฯจะมีแนวทางต่อสู้อย่างไรถ้าดูข้อกฎหมายแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ตนว่าจริงๆแล้วเรื่องกฎหมายหรือแนวทางทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงอยู่แล้ว และเจตนารมณ์ด้วย
@ถามกลับนักข่าว ‘อุบัติเหตุอะไร?’
เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองนายกฯมีแผนรองรับอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า “อุบัติเหตุอย่างไรครับต้องถามก่อน ก็ต้องว่าไปตามกฏหมาย เราเคารพทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องของการที่เดินเข้าสู่ถนนของการเมืองอยู่แล้ว”
เมื่อถามว่า ได้มีโอกาสพูดคุยให้กำลังใจนายพิชิตหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนั้นที่ท่านลาออก ก็มีการให้สัมภาษณ์สื่อไป และตอนกลางคืนตนก็โทรหาท่าน และขอบคุณที่ท่านลาออก เห็นแก่ประเทศชาติ ก็เท่านั้นเอง ยังไม่ได้พูดคุยอะไรต่อ
@ 2 เก้าอี้รมต. รอคุยพรรคร่วม
เมื่อถามว่า เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ขณะนี้เก้าอี้ว่างลง 2 ตำแหน่ง นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องขอไปคุยกับทุกๆพรรคก่อน ถือโอกาสนี้นั่งคุยกันดีกว่า มีหลายเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน เมื่อถามว่า จะให้ใครมาแทนนายพิชิต นายกฯกล่าวว่า เป็นคำถามเดียวกับเรื่องปรับ ครม. คงไม่ใช่คนเดียว คงต้องรวมทั้งหมดและเวลาที่เหมาะสมด้วย เพราะทางพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็ว่าง 1 ตำแหน่ง ก็ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยกัน แต่ตนยังไม่ได้คุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
@ยังไม่มีแผนสำรอง
เมื่อถามว่า มีการประเมินว่าเรื่องนี้อาจจะกระทบถึงตำแหน่งของนายกฯ ได้เตรียมแผนไว้หรือไม่
นายเศรษฐา กล่าวว่า “ที่บอกว่าผมเตรียมแผนไว้อย่างไรผมไม่ได้เตรียม ผมได้เตรียมตอบเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญมีข้อกังวลหรือข้อสงสัยมากกว่า และคู่ขนานก็ต้องบริหารบ้านเมืองต่อไป ต้องทำหน้าที่นายกฯต่อไป มีงานอะไรก็ทำเหมือนเดิมทุกอย่าง อย่างวันจันทร์นี้จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจ ว่าเราจะมากระตุ้นเศรษฐกิจกันอย่างไร“
@อิ๊ง หมดห่วง เชื่อ ‘เศรษฐา’ ชี้แจงได้
ด้านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือ ปรับครม. นอกจากนายกรัฐมนตรีจะดูเรื่องความรู้ความสามารถแล้ว ก็ยังดูเรื่องของคุณสมบัติด้วยอย่างถี่ถ้วน จึงคิดว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนแล้ว
ส่วนเรื่องของแผนสำรองนั้น คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะนายกรัฐมนตรียังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ และยังคงสู้ในเรื่องของเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนต่อไป
เมื่อถามว่า คิดว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ เพราะ นายพิชิตก็เคยใช้คำว่าเรื่องนี้เป็นวงจรอุบาทว์ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า การตรวจสอบต้องเป็นไปตามกลไกอยู่แล้ว เมื่อถามถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มองว่าเป็นการวางยานายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทยย้ำว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไก ถ้าคิดว่าเป็นการวางยา ยาอะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน ทุกอย่างต้องเข้าระบบ ไม่เช่นนั้นประเทศก็จะไปต่อไม่ได้
@ยังไม่พร้อมเป็นนายกฯ
ส่วนที่มีหลายฝ่ายประเมินว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาจกลับมาเป็นของ นางสาวแพทองธาร ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกคนของพรรค มีความพร้อมหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ยอมรับว่า ไม่ได้เตรียมความพร้อมเรื่องนี้เลย เพราะคิดว่าไม่จำเป็น นายเศรษฐายังปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และตนก็ยังเป็นหัวหน้าพรรค เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ ตนก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า พรรค พท.เตรียมรายชื่อผู้ที่จะมารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนายพิชิต เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ออกมาอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ครม. ขอให้ไปถามนายกรัฐมนตรีเอง ทั้งนี้ มั่นใจว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นคุณต่อนายเศรษฐา และมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ