กทม.สั่งพักราชการ นายช่างถูกรวบคดีเรียก 9 ล้าน แลกแก้แบบถนนไม่ให้ตัดผ่านสนามกอล์ฟ พร้อมตั้งกรรมการสวนวินัย มีผล 21 พ.ค.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสืบเนื่องจากกรณีที่พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. บูรณาการกำลังร่วมกับ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 และ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวนรวม 5 จุด ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ปทุมธานี และ นครราชสีมา เพื่อจับกุมขบวนการเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธา กทม. เรียกรับสินบนจำนวน 9 ล้านบาท เพื่อแลกกับการช่วยแก้ไขแบบแนวเขตโครงการถนนเลียบวารี ไม่ให้เข้าไปในเขตสนามกอล์ฟวินด์เซอร์ปาร์ค แอนด์ กอล์ฟคลับ
ล่าสุดในวันที่ 21 พ.ค. ทางสำนักงานการโยธาได้มีคำสั่งให้นายช่างโยธาที่ถูกจับกุมต้องพักราชการ และสั่งให้มีการตั้งกรรมการสอบกรรมการแล้ว มีเนื้อหาและและรายละเอียดดังนี้
คำสั่งให้พักราชการ กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน
สืบเนื่องจากนาย (ไม่ระบุชื่อ) ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ตำแหน่งนายช่างโยธาชำนาญงาน กลุ่มงานสำรวจและแผนที่ 1 กองสำรวจและแผนที่ที่ดินสำนักการโยธา (ตำแหน่งเลขที่ กสด18) อัตราเงินเดือน 22.,410บาท มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกแต่งตั้งกรรมการสอบสวนตามคำสั่งสำนักการโยธา ที่ 89/2567 สั่ง ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2567ในเรื่องเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เวลา 06.000 น.
ถูกเจ้าพนักงานตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 (ป.ป.ท.) เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) จับกุมในความผิดเรียกรับสินบนจำนวน 9 ล้านบาทเพื่อแลกกับการช่วยแก้ไขแบบแนวเขตโครงการถนนเลียบวารี ไม่ให้เข้าไปในเขตสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 มาตรา 52 (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 ประกอบมาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และข้อ 85 ข้อ 89 ของกฎ ก.ก. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565จึงสั่งให้ข้าราชการคนดังกล่าว พักราชการ
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ออกคำสั่งเป็นต้นไป
หากท่านไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน สามารถโต้แย้งได้ ให้ทำคำร้องทุกข์เป็นหนังสือยื่นต่อ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือถือว่าทราบเหตุแห่งการร้องทุกข์มาตรา 64แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 ประกอบกับข้อ 8
และข้อ 31 ของกฎ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานครว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2555
สั่ง ณ วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
ลงนามโดยนายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี
สำหรับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่มีการออกมาภายในวันเดียวกันและมีเนื้อหาที่คล้ายกันระบุผู้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงดังนี้
1. นายธวัชชัย สมบูรณ์ เป็นประธานกรรมการ 2.ว่าที่ ร.ต.สุทัศน์ กาเซ็ม เป็นกรรมการ 3. นางสาวนุสรา จงปลื้มปิติ เป็นกรรมการและเลขานุการ
ให้คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงพิจารณาตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในกฎ ก.ก. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565 แล้วนำเสนอสำนวนการสอบสวนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงเห็นว่า กรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่น นอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสอบสวนพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นให้ดำเนินการ ตามข้อ 56 หรือข้อ 57 ขอกฎ ก.ก. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565 แล้วแต่กรณี