ผบก.ปทส.เผยผลสอบ กก.บริษัทเจ้าของกากแคดเมียม ยืนยันบริษัทผิดกฎหมายจริง เหตุเอกชนมีแค่ใบอนุญาตแค่กำจัด แต่เตรียมขนเข้าลาว ขายให้ผู้ซื้อจีน เผยตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยวด้วยหรือไม่-ขณะเจ้าตัวย้ำทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 18 เม.ย. พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) ได้เปิดเผยถึงกรณี นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัดเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก โดยจากการพูดคุยนอกรอบ นายเจษฎาเปิดเผยเบื้องต้นว่า การซื้อขายกากแคดเมียมนั้นมีการทำสัญญากับบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ซึ้งขายให้ตามน้ำหนักกิโลกรัมละ 1.25 บาทโดยในสัญญาบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล เป็นผู้ซื้อที่จะรับไปกำจัด อย่างก็ตามบริษัทกลับนำแคดเมียมเตรียมไปขายต่อที่ลาวโดยมีคนจีนรับซื้อ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
“นายเจษฎายอมรับว่าตอนแรกจะพยายามส่งออกไปหลอมที่ลาวโดยมีคนจีนรอรับซื้อ ซึ่งที่ลาวมีบริษัทที่สามารถ แยกแคดเมียม ทองแดง และสังกะสีได้ แต่ปรากฏว่าก่อนหน้ามีนายจางติดต่อเข้ามาซื้อกากแคดเมียม 5 พันตัน จึงขายให้กิโลกรัม 8.25 บาท ซึ่งนายจางได้ส่งรถมารับเพื่อนำไปไว้ที่จ.ชลบุรี ทั้งนี้ยังพบว่านายจางยังพยายามขายต่อให้คนอื่นอีกที แต่ไม่ให้นายเจษฎารู้ว่าขายให้ใคร ส่วนล็อตที่จะส่งไปลาวยังไม่มีการตกลงที่แน่ชัดและประเมินราคาไม่น่าจะต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8.25 บาทแน่นอน “ ผบก.ปทส.กล่าว
พล.ต.ต.วัชรินทร์ ยืนยันว่า การที่บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล นำไปขายต่อถือว่าผิดวัตถุประสงค์ในสัญญาซื้อขายเพราะบริษัทมีใบอนุญาตกำจัด และสัญญาซื้อขายก็ระบุว่าซื้อมากำจัด โดยนายเจษฎาให้ดูรูปยืนยันว่ามีเครื่องมือในการกำจัด โดยซื้อมาจากประเทศอังกฤษแต่ตอนนี้เครื่องมือ อยู่ระหว่างซ่อมแซมทำให้ไม่สามารถกำจัดได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องไปดูเครื่องจักรดังกล่าว แต่เชื่อว่าวัตถุประสงที่ซื้อมาจากบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด นั้นจะซื้อมาเพื่อขายต่อมากกว่ากำจัดกันแน่
ผบก.ทปส.กล่าวต่อว่าส่วนที่บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล ต้องนำกากแร่ไปฝากโกดังอื่นๆ ซึ่งนายเจษฎา อ้างว่า ที่จัดเก็บไม่เพียงพอ จึงต้องนำไปจัดเก็บที่อื่น ตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่จำเป็นที่ต้องสอบในทางลึกอีกที
เมื่อถามว่าการขออนุญาตให้ขนกากแคดเมียมจากตาก 13,800 ตันทั้งที่ปลายทางไม่มีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอการรองรับหน่วยงานไหนต้องตรวจสอบ ระหว่างอุตสาหกรรมจากต้นทางหรืออุตสาหกรรมปลายทาง พล.ต.ต.วัชรินทร์ ยืนยันว่า ต้องเป็นปลายทาง โดยเมื่อแรกขนย้ายมาถึงจังหวัดสมุทรสาครแล้วก็เป็นหน้าที่ของอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครที่ต้องเข้าไปตรวจสอบโดยนายเจษฎาให้การว่า อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครเคยเข้ามาตรวจสอบแล้วหนึ่งครั้ง
ผบก.ปทส.กล่าวว่าส่วนการที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครมาตรวจแล้ว แต่จำนวนกากแร่ไม่ตรงกับที่มีการสำแดงไว้เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ส่วนตำรวจก็สืบสวนไปด้วยในทางข้าง และจะนำข้อมูลไปเทียบเคียงกับของกระทรวง ซึ่งหากบก.ปทส.พบเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะส่งเรื่องให้ปปป.โดยตอนนี้ได้ประสานให้กับปปป.เรียบร้อยแล้วหากเจอก็จะให้ดำเนินการไปควบคู่กับคดีอาญาของบก.ปทส.นอกจากนี้ได้มีการประสานงานกับประธานกมธ.อุตสาหกรรมในทางลับอยู่แล้ว
พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตามนายเจษฎายืนยันว่าการขนกากแคดเมียมไม่มีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐระดับรองอธิบดีเกี่ยวข้องตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล ส่วนการกล่าวหาใครต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน
เมื่อถามว่าจากการตรวจสอบบริษัทต้นทาง บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัดพบความผิดอะไรบ้างหรือไม่ พล.ต.ต.วัชรินทร์ เปิดเผยว่า บริษัทต้นทางต้องรับผิดชอบตามประกาศกระทรวง ปี 66 และผู้ก่อมลพิษก็ต้องรับผิดชอบหากก่อมลพิษ ส่วนการขนย้ายยังไม่พบว่าบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ มีความผิดในตอนนี้เพราะในสัญญาซื้อขายระบุชัดว่า ให้ เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด รับผิดชอบทั้งหมดทั้งเรื่องการประสานงานเจ้าหน้าที่การขนย้ายการขอ EIA ผู้ขายจะไม่รับผิดชอบโดยให้วางเงินมัดจำไว้ประมาณ 10 ล้านบาท หากมีความเสียหาย
ส่วนเรื่องการตั้งข้อสังเกตว่าการทำ EIA ว่าบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ฝ่าฝืน EIA หรือเปล่าเนื่องจากขุดกากแร่ขึ้นมาพล.ต.ต.วัชรินทร์บอกว่า ตำรวจยังไม่ได้ดูตรงนี้เพราะการกำหนด EIA เป็นเรื่องของกรมควบคุมมลพิษ
ส่วนกรณีกระทรวงการคลังถือหุ้น ในบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์แต่บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ไม่มีความผิดนั้นจะเกิดข้อครหาหรือเปล่า พล.ต.ต.วัชรินทร์บอกว่า เรื่องนี้ มีหนังสือไปถึงอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ให้พิจารณาว่าเบาด์ แอนด์ บียอนด์ มีความผิดอะไรบ้าง หากพบความผิดให้อุตสาหกรรมจังหวัดตากเป็นผู้ร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนบก.ปทส. เนื่องจากตอนนี้ เบาด์ แอนด์ บียอนด์ ยังไม่มีความผิดทางอาญาทำให้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถดำเนินการได้
ส่วนจะต้องเขิญ สก.ก้าวไกลมาหรือไม่พล.ต.ต.วัชรินทร์ บอกว่าแม้จะเป็นญาติจริงแต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้และนายเจษฎาบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและห่างกันมานานแล้ว
โดยในวันนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายเจษฎา ประกอบด้วย 4 คดี คือ ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี 132 หมู่ 2. ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทใหญ่ จะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.โรงงาน
ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี 136/2 หมู่ 2. ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีความผิด ข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในใบอนะญาตเป็นปลายทางของกากแคดเมียม
มีความผิด ข้อหา ร่วมกันครอบครองวัตถุอันตราย กรณีที่ได้ทำสัญญากับโกดังเลขที่ 70/2 ม.7 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ของนายหนุ่ม ในการเก็บเช่าโกดังเก็บกากแคดเมียม
และความผิด ข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย กรณีเป็นกรรมการบริษัท ล้อโลหะไทย แมททอล จำกัด ย่านบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ที่นำกากแคดเมียมมาฝากไว้
ขณะที่ นายเจษฎา ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชน ถึงข้อเท็จจริงที่ครอบครองกากอุตสาหกรรม ยืนยันว่า ตนเองทำถูกต้องทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางมาถึงปลายทาง และบริษัทเจแอนด์ลี เป็นโรงหลอมโรงหล่อ ก็ไปประมูลกากอุตสาหกรรมมา เพื่อนำขาย และตนเองต้องการสังกะสี กับทองแดง แต่แคดเมียม เป็นองค์ประกอบ ที่ไม่ได้อันตรายมาก
นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล พร้อมทนายความแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ส่วนที่ต้องนำไปฝากตามจุดต่างๆ เพราะมีจำนวนมากจึงต้องไปเช่าโกดัง และตนเองเป็นพ่อค้า นอกจากเอามากำจัดแล้ว แต่เมื่อหมุนเงินไม่ทัน จึงแบ่งเอาไปขายบ้าง ก็คือการขายให้นายจาง โดยยอมรับผิดว่า เป็นการนำไปขายต่อโดยไม่ถูกต้องเพราะยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขายต่อ และยอมรับว่า เตรียมนำไปขายต่อที่ประเทศลาว ด้วย อยู่ระหว่างการขออนุญาตตามสัญญาบาเซล และกากอุตสหกรรมที่เจอทั้งหมดนั้น เจอครบทั้งหมดแล้ว พร้อมยืนยันว่า การทำธุรกิจของตนเอง ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง เพราะตนเอง ทำธุรกิจนี้มา กว่า40ปีแล้ว และไม่มีการเมืองใดๆมาเกี่ยวข้อทั้งสิ้น