เปิดมติ ครม. 9 เม.ย. มอบ ‘ก.มหาดไทย-ก.ยุติธรรม’ ศึกษาความเป็นไปได้ขยายเวลา ‘ต่างชาติ’ เช่า ‘อสังหาริมทรัพย์’ ยาวขึ้น หลัง ‘เอกชน’ เสนอขยายเวลาเช่าจาก 30 ปี เป็น 99 ปี พร้อมมอบ ‘มท.-บีโอไอ’ ศึกษาเปิดทาง 'ชาวต่างชาติ' ซื้อ ‘ที่อยู่อาศัย’ ใน ‘โครงการจัดสรร’ ได้
................................
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ รวม 7 มาตรการ/โครงการ เช่น ลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท รวมถึงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ต้องการปลูกสร้างบ้าน รวมแล้วไม่เกิน 1 แสนบาท นั้น (อ่านประกอบ : ครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้น'อสังหาฯ'ชุดใหญ่-‘คลัง’คาดดันจีดีพีปี 67 โตเพิ่ม 1.7-1.8%)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการพิจารณาวาระดังกล่าว ที่ประชุม ครม. ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน ยังมีมติมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นต้น ไปพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินมาตรการอื่นๆ ซึ่งผู้ประกอบการในภาคอสังหาริมทรัพย์ได้มีข้อเสนอให้ภาครัฐพิจารณา ก่อนเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่ผู้ประกอบการเอกชนในภาคอสังหาริมทรัพย์ อาทิ สมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มีข้อเสนอให้ภาครัฐพิจารณา ประกอบด้วย 4 ประเด็นหลัก ได้แก่
1.การพิจารณาแก้ไขนโยบายการจัดสรรที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและพาณิชยกรรม โดยลดขนาดที่ดินพร้อมอาคารประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถวหรืออาคารพาณิชย์ เป็นไม่ต่ำกว่า 35 28 และ 14 ตารางวา ตามลำดับ
2.การพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ ประกอบด้วย 2.1 การขยายระยะเวลาการเช่า จากเดิม 30 ปี เป็น 99 ปี โดยกำหนดการเช่าให้เป็นทรัพยสิทธิ (Real Right) 2.2 การทบทวนหลักเกณฑ์ของ BOI ที่เกี่ยวข้องกับการที่ชาวต่างชาติสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้
2.3 การพิจารณาให้ LTR Visa 10 ปี จำนวน 4 คนแก่ผู้เช่าระยะยาวหรือผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยมูลค่าตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป และ MTR Visa 5 ปี จำนวน 2 คน สำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยมูลค่าตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป และ 2.4 กำหนดให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรที่ดิน
3.การพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์ LTV (Loan-to-value ratio) ในปี 2567-2568
4.การบรรเทาความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในกระบวนการขออนุมัติรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด โดยขอให้ผู้ประกอบการที่ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน สามารถยื่นและดำเนินการจนครบขั้นตอนในการได้รับอนุมัติรายงาน EIA ในระหว่างที่ยังไม่โอนที่ดินได้
ทั้งนี้ ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) และกระทรวงหมาดไทย (มท.) ไปพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายระยะเวลาการเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับลักษณะการเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปศึกษาความเป็นไปได้ในการแก้ไขนโยบายการจัดสรรที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและพาณิชยกรรม
นอกจากนี้ ครม.มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย บีโอไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการพิจารณาให้ LTR Visa และ MTR Visa รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรได้ พร้อมทั้งมอบหมายให้ ธปท. พิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์ LTV ในปี 2567-2568 และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาดำเนินการบรรเทาความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในกระบวการขออนุมัติ EIA ของกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด (อ่านเอกสารประกอบ)
อ่านประกอบ :
ราชกิจจาฯแพร่ประกาศฯ ลดค่าโอน-จดจำนอง‘อสังหาฯ’ ราคาไม่เกิน 7 ล้าน เหลือ 0.01%
ครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้น'อสังหาฯ'ชุดใหญ่-‘คลัง’คาดดันจีดีพีปี 67 โตเพิ่ม 1.7-1.8%