รองนายกฯปานปรีย์ เดินทางถึง อ.แม่สอด จ.ตากแล้ว ติดตามสถานการณ์สู้รบในประเทศเมียนมา ชี้ยังไม่ลามเข้าไทย พร้อมกาง 4 มาตรการรองรับ เผยนายกฯสั่งตั้งศูนย์แก้ปัญหาชายแดน ยังไม่ทราบรายงานทหารเมียนมาเข้าประชิดชายแดนไทย จ่อข้ามแดนหรือไม่ แต่มีมาตรการเตรียมไว้แล้ว นายกฯย้ำห้ามล้ำน่านฟ้าไทย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 12 เมษายน 2567 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 (ทอท.2) กองบิน 6 (บน.6) ด้วยเครื่องบิน C-295 ของกองทัพบก ถึงท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด จ.ตาก ในเวลา 10.20 น. เพื่อติดตามสถานการณ์และสำรวจความพร้อมในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จากสถานการณ์การสู้รบใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา
โดยมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนกองทัพบก ร่วมเดินทางด้วย
ทั้งนี้ คณะของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์บริเวณชายแดนล่าสุด พร้อมพบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ในช่วงเช้า และสำรวจสถานการณ์ในพื้นที่และการเตรียมความพร้อมของฝ่ายไทย ในพื้นที่ด่านศุลกากรแม่สอด แห่งที่ 2 สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 กรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินในช่วงบ่ายต่อไป
@สถานการณ์สู้รบยังไม่ลามไทย / ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ
ต่อมา เวลาประมาณ 15.30 น. นายปานปรีย์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วานนี้ (11 เม.ย. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตั้งคณะทำงานเฉพาสะกิจเพื่อดูแลการบริหารสถานการณ์ของเมียนมา มอบให้ตนเป็นประธาน มีสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นเลขานุการ
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้คุยในหลายประเด็น หลายเรื่องมีความซับซ้อนและประเทศเมียนมา ถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเดินทางไปมาหาสู่กันของพลเมืองทั้งสองประเทศ และยังมีการค้าขายระหว่างกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ตากและอ.แม่สอด มีจุดที่สำคัญ 2 จุดคือ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา และด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากร และสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ที่จะมีการจนส่งสินค้าจำนวนมาก และดูด่านศาลเจ้า 34 แล้วด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์ใดๆกระทบ การขนส่งสินค้า การเดินทางข้ามแดนยังปกติอยู่
@กาง 4 มาตรการรับ / มีศูนย์สั่งการชายแดน
ส่วนประเด็นมรการเตรียมพร้อมกรณีเกิดความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในเมียวดี ซึ่งจะทำให้พลเมืองเมียนมาอพยพนั้น ก็ได้สอบถามแล้ว ได้ความว่า มีการเตรียมความพร้อมไว้ 4 ประเด็น คือ 1.คนไทยที่ได้รับผลกระทบชายแดน ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว และจัดสถานที่ไว้แล้ว ส่วนคนเมียนมาก็เตรียมพร้อมแล้ว เพราะ จ.ตาก มีจุดที่เตรียมไว้ 123 จุด ที่เป็นสถานที่พักพิงและให้ความปลอดภัย 3. กรณีทหารเมียนมาจำนวนหนึ่ง มาอยู่บริเวณสะพานแห่งที่ 2 นั้น ยังไม่พบวัตถุประสงค์ที่จะข้ามมา ยืนยันว่ายังเป็นเพื่อนบ้านกับเมียนมา และดูแลเรื่องมนุษยธรรม และ 4. กรณีประชาชนชาวจีนที่จะข้ามแดนมา ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับการไปทำอะไรผิดกฎหมายในเมียนมานั้น มีระบบคัดกรองชัดเจนแล้ว
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การบริหารจัดการกรณีที่เกิดสถานการณ์ ก็มีศูนย์สั่งการชายแดน มีผู้ว่าราชการจังหวัดตากเป็นประธาน และมีหน่วยงานทั้งฝ่ายความมั่นคง ทหาร มาดูแล กองทัพบกดูแลตลอดแนวชายแดน และมีการเฝ้าระวังไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในแดนไทย
@กำลังทหารเมียนมา ยังไม่ขอความช่วยเหลือ
เมื่อถามว่ากรณีทหารเมียนมา มีการร้องขอความช่วยเหลือมาหรือยัง และถ้ามี ต้องมีเงื่อนไขและหลักปฏิบัติอย่างไร นายปานปรีย์กล่าวว่า ยังไม่มีการร้องขอและกรณีที่มีการร้องขอก็มีขั้นตอนชัดเจนอยู่แล้วคือ ต้องปลดอาวุธ เครื่องแต่งกาย และแต่งกายแบบพลเรือน จึงจะให้ข้ามแดนมา ในฐานะมนุษยธรรม และไม่มีนโยบายส่งกลับไป แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีการร้องขอความช่วยเหลือ โดยจากที่ลงพื้นที่ไม่น่าจะถึง 200 นาย
ส่วนการเสนอเป็นคนกลางในการเจรจาปัญหาภายในเมียนมานั้น นายปานปรีย์ตอบว่า ยังไม่มีใครรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นในเมียนมา โดยเฉพาะรอบเมืองเมียวดี เพราะยังไม่รู้ว่าใครเป็นพวกใคร ต้องรอความชัดเจนก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ติดต่อผู้นำทางทหารของเมียนมา เพื่อให้หยุดโจมตีเมืองเมียวดีหรือยัง นายปานปรีย์ระบุว่า ได้ส่งข้อความหาสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมา (State Administration Council: SAC) แล้วว่า ไม่ประสงค์จะเห็นความรุนแรง และประสานทางสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพื่อออกแถลงการณ์ในการให้ลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมียนมา และใช้หลักการเจรจาในการแก้ปัญหา
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า เมื่อเช้าได้รับฟังการสรุปสถานการณ์จาก พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.แล้ว สถานการณ์ก็เป็นไปในแนวทางที่ดี ส่วนแผนรองรับการอพยพเข้าไทย มีแผนรองรับแล้ว หารือผบ.ทอ.เรื่องล้ำน่านฟ้าสั่งการแล้วว่า ห้ามเด็ดขาด ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ไม่อยากพูดเยอะ เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง
ที่มาภาพ: กระทรวงการต่างประเทศ