อสส.ยังไม่มีความเห็นคดี 'ทักษิณ' ผิด ม. 112 เหตุเพราะพนักงานสอบสวนส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมตามคำสั่ง อสส.ไม่ครบถ้วน เลื่อนฟังคำสั่งไปวันที่ 29 พ.ค. ด้านโฆษก อสส.แจงสอบสวนคืบหน้าแล้ว 80% ส่วนทนายทักษิณมั่นใจสู้คดี เพราะเจ้าตัวไม่มีเจตนา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 10 เม.ย.เม.ย.ที่ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีการแถลงข่าวความคืบหน้าคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เเละ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศที่เกาหลีใต้เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2558
โดยนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนัก อสส.กล่าวว่า อสส.ยังมิได้มีความเห็นและคำสั่งทางคดี เนื่องจากพนักงานสอบสวนส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติม ตามที่ อสส.มีคำสั่งยังไม่ครบถ้วน สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 จึงให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งไปในวันที่ 29 พ.ค. 2567 เวลา 09.00 น. โดยมีผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณ ชินวัตร มารับทราบการเลื่อนคดีเพื่อไปฟังคำสั่งตามวันเวลาดังกล่าวแล้ว
“ก่อนหน้านี้นายทักษิณ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ผ่านพนักงานสอบสวนไปตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. ทำให้อัยการต้องพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและเห็นว่ามีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งผลการสอบสวนมาเพียงบางประเด็น ทำให้ยังไม่มีความเห็นทางคดี และนัดมาฟังอีกครั้ง ในวันที่ 29 พ.ค. เวลา 09.00 น.ขณะที่วันนี้นายทักษิณไม่ได้เดินทางมา แต่ส่งนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความในฐานะผู้รับมอบอำนาจและนายประกันเป็นผู้มารับฟังคำสั่งเลื่อนแทนตัวผู้ถูกกล่าวหา” โฆษก สำนัก อสส.กล่าว
นายประยุทธ กล่าวอีกว่า ทางอ สส.ได้มีการแสดงผลสถานะทางคดีผ่านระบบ OAG-Tracking เพื่อแจ้งให้ทราบผ่านออนไลน์ ซึ่งคดีของนายทักษิณ ได้มีการแจ้งผ่านระบบไปเมื่อช่วง 16.00 น. เมื่อวานนี้ ทำให้ตัวผู้ต้องหาสามารถส่งตัวแทนมาได้และไม่ต้องมาเอง เเนวทางนี้ถือเป็นเเนวทางปฏิบัติที่เท่าเทียมกันทุกคนใช้กับประชาชนทั่วไป
ทางด้านของนายณรงค์ รีระสันต์ รองโฆษกสำนักงาน อสส.กล่าวว่าสำหรับแนวทางการเลื่อนคดีแบ่งออกได้เป็น 3 กรณี 1 .เลื่อนจากหน่วยงานราชการติดปัญหาเช่น กรณีสอบสวนไม่แล้วเสร็จ 2.ตัวผู้ต้องหาเป็นคนขอเลื่อนเอง แต่จะต้องแจ้งสาเหตุการเลื่อน 3.หากมีคำสั่งฟ้องแล้ว แต่ผู้ต้องหายังไม่พร้อม หาหลักทรัพย์ไม่ทัน ก็สามารถยื่นเหตุความจำเป็นถึงอัยการขอเลื่อนการส่งตัวค่อศาลได้เช่นกัน
เมื่อถาม ว่าตอนนี้มีการสอบสวนเสร็จไปแล้วกี่ประเด็น และประเด็นใดสอบสวนเสร็จแล้ว นายประยุทธ ระบุว่า ไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นรายละเอียดในสำนวนคดี แต่กรณีนี้ประชาชนให้ความสนใจจึงต้องมีข้อมูลเบื้องต้นให้กับสื่อมวลชน ตอนนี้ผลการสอบสวนเพิ่มซึ่งงานโฆษกฯเราได้ประสานกับอัยการผู้รับผิดชอบพบว่าประเด็นที่สั่งสอบเพิ่มเติมไปสอบสวนกลับมาเเล้ว 70-80 % โดยเฉพาะถ้อยคำบุคคลที่เกี่ยวข้องตามที่มีคำสั่งของ อสส.มีคำสั่งก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลือเป็นงานด้านเอกสารและการสอบผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ
ถามต่อว่าหากมีการส่งผลสอบสวนเพิ่มเติมครบถ้วนเเล้ว อสส.จะสั่งคดีได้ทันวันที่ 29 พ.ค.หรือไม่ นายประยุทธ์กล่าวว่าไม่อาจไปก้าวล่วงดุลพินิจอสส.ได้ เเต่ด้วยนโยบายหลักปฏิบัติของอสส.ที่ทำมาตลอด คือมีการทำงานที่เร่งรัดทุกคดีเเละเป็นธรรมโดยเฉพาะคดีนอกราชอาณาจักรที่มีคณะทำงานที่มีความรู้ความสามารถคดีจะไม่ล่าช้าเเน่นอน เเต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะทันครบในนัดหมายครั้งต่อไปหรือไม่
เมื่อถามถึง เรื่องการสอบสวนเพิ่มเติม มีการเรียกพยานหลักฐานจากประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเป็นเอกสารสำเนาต้นขั้วมาได้หรือไม่
นายประยุทธกล่าวว่าทางโฆษกไม่สามารถตอบได้เนื่องจากเป็นรายละเอียดเชิงลึกในคดี
เมื่อถามว่า เมื่อถึงวันนัดฟังคำสั่งนัดหน้าหากนายทักษิณยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาอีกสามารถทำได้หรือไม่
นายประยุทธ กล่าวว่าตามระเบียบของสำนักงาน อสส.ผู้ต้องหาสามารถยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมรวมถึงผู้เสียหายเเละผู้เกี่ยวข้องในคดีเเต่เป็นดุลพินิจของอัยการจะมองว่าเป็นประเด็นเดิมหรือเป็นการประวิงหรือไม่ ถ้าเป็นก็สั่งยุติได้ทุกอย่างอยู่ภายใต้หลักการ
@ทนายทักษิณเผยเจ้าตัวมั่นใจในทางคดี เหตุเพราะไม่มีเจตนา
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่าในวันเดียวกันนี้ (10 เม.ย.) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อยืนยันว่านายทักษิณนั้นมีความมั่นใจอยู่แล้วในทางคดีเพราะท่านไม่มีเจตนา ส่วนการใช้ชีวิตก็ปกติตามปุถุชน ท่านก็เป็นคนชรา มีอาการบาดเจ็บและได้รับการรักษา ขั้นตอนต่อไปท่านก็ต้องดูแลตัวเอง
"ความมั่นใจนั้นบอกเป็นเปอร์เซ็นต์หรือตัวเลขไม่ได้แต่เราขอต่อสู้ตามสิทธิ์ ตามพยานหลักฐาน ตามข้อกฎหมาย ซึ่งมี 2 เรื่องจากข้อกล่าวหาคือ พรบ.คอมฯกับมาตรา 112 เราต้องต่อสู้ว่าเข้าองค์ประกอบความผิดหรือไม่ ต้องมีข้อเท็จจริงที่ค่อนข้างครบถ้วน ถ้าไม่ครบถ้วนเราก็เสนอให้ทางอสส. ถ้าท่านเห็นว่ามีประโยชน์ทำให้การสอบสวนครบถ้วนและต้องเป็นธรรม ท่านก็จะให้สอบเพิ่มเติม ก็อย่างที่เห็นท่านให้สอบเพิ่มเติม" นายวิญญัติกล่าว
นายวิญญัติกล่าวอีกว่าส่วนที่มาในวันนี้ก็มาในฐานะทนายความได้รับอำนาจมารับทราบคำสั่งของทางอัยการ เพราะเมื่อ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา นายทักษิณได้มารายงานตัวและอัยการได้ปล่อยชั่วคราวไปตามที่เป็นข่าว โดยนัดครั้งนี้ ทางอัยการได้ขอเลื่อนนัดต่อไปคือวันที่ 29 พ.ค. เพื่อฟังคำสั่งอีกครั้ง
ปกติคดีอาญาทั่วไปจะทางผู้ต้องหาหรือทนายต้องประสานกับอัยการล่วงหน้า 1 วันว่าในนัดครั้งนี้ อัยการจะสั่งหรือไม่ ถ้านัดสั่งฟ้องก็ต้องเตรียมหลักทรัพย์มายื่นประกัน หากมีเหตุอื่นที่ยังไม่สามารถสั่งฟ้อง ท่านก็จะแจ้งเรามา ทางผู้ต้องหาจะมาเองหรือจะมอบอำนาจให้นายประกันหรือทนายความมาแทนก็ได้ ส่วนในเรื่องคดีแม้ว่าตนจะเป็นทนายความดูแลแต่ตนขอไม่ลงรายละเอียดในการต่อสู้คดีเป็นความลับประกอบกับว่า อสส.ได้สั่งสอบเพิ่มเติมซึ่งมีรายละเอียดอยู่หลายประการ ส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา เราก็ให้การเพิ่มเติมไป หากเกี่ยวกับพยานคนอื่นหรือพยานคนกลางก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนกับอัยการที่จะมอบหมาย ในรายละเอียดเราไม่ทราบและขออนุญาตไม่เปิดเผยไม่ลงรายละเอียดทั้งหมด หากพูดไปอาจกระทบคดี
ส่วนครั้งหน้าถ้ามีการสั่งฟ้องเราก็มาตามนัด และก็ไปปรากฏตัวที่ศาล เราก็มีหน้าที่ขอปล่อยชั่วคราว ตามอัตราที่ศาลกำหนดไว้ แต่ถ้าอสส.หรือรองอสส.ได้รับมอบหมายไม่ฟ้อง ก็ถือว่าคดีนั้นเสร็จสิ้นไป เป็นไปตามระเบียบของอัยการอยู่แล้ว