สื่อสหรัฐฯ ตีข่าวอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดทหารเมียนมา เผยมีการอพยพ 42 เจ้าหน้าที่จากเมืองเมียวดีผ่านสนามบินแม่สอดไปย่างกุ้ง ขณะสถานการณ์สู้รบยังตึงเครียด เหตุ 275 หน่วยทหารยังไม่ยอมวางอาวุธ ล่าสุด รมช.กต.ไทยอ้างตรวจสอบแล้วเป็นแค่การขนสิ่งของพลเรือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับ กรณีสถานการณ์การสู้รบที่เมียนมา โดยอ้างอิงจากสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชีย (RFA) สื่อจากสหรัฐอเมริกาที่รายงานข่าวในภาคภาษาเมียนมาว่าบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้นำสภาทหารในเมืองเมียวดีแต่ขอปกปิดนามเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยได้ให้สัมภาษณ์กับ RFA ว่าเจ้าหน้าที่ในระดับอำเภอ/เขตการปกครองจำนวน42 คนและครอบครัวของพวกเขาในเมืองเมียวดีได้ถูกนำตัวไปยังเมืองย่างกุ้งแล้ว โดยสายการบินแห่งชาติเมียนมา โดยผ่านสนามบินแม่สอด ประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 เม.ย. เวลา 22.00 น.
แหล่งข่าวรายนี้ให้ข้อมูลว่าเครื่องบินเลขที่เที่ยวบิน ATR 72-600 นั้นมาถึงแม่สอดเมื่อเวลา 20.30 ย. และบินออกไปยังเมืองย่างกุ้งเมื่อเวลา 22.00 น.
อนึ่งในหนังสือแจ้งการอนุญาตบินฉุกเฉินที่สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจําประเทศไทยส่งถึงกระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยลงวันที่ 6 เมษายนระบุว่าเครื่องบิน MNA หมายเลข ATR 72-600 จะบินไปย่างกุ้งและแม่สอดเป็นเวลาสามวันตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 9 เมษายน
โดยสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเมียวดี มีรายงานว่ากองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และกองกําลังพันธมิตรได้โจมตีและยึดค่ายทหารรอบเมียวดี และยังมีหน่วยของกองกําลังรักษาเมืองของสภาทหารเมียวดีจำนวน 275 หน่วยที่ยังไม่ยอมจํานน ดังนั้นสงครามจึงยังคงตึงเครียด
มีรายงานข้อมูลจากนักธุรกิจในเมืองเมียวดีที่ขอไม่ระบุชื่อตัวเองยืนยันว่าเมื่อวันที่ 7 เม.ย.เจ้าหน้าที่ของสภาทหารในเมืองเมียวดีถูกพักงานและถูกนำกลับไปทางย่างกุ้งทางเครื่องบิน
“วันนี้ที่เมืองเมียวดี บุคลากรทางการศึกษาในระดับสูงกําลังเข้าร่วมพิธีที่จัดขึ้นโดยผู้อาวุโสในเมือง ที่สะพานมิตรภาพ เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายกําลังทํางานเป็นปกติเพื่อออกตั๋วสำหรับข้ามสะพาน ตามปกติแล้วจะไม่ได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สะพานในวันนี้ (7 เม.ย.) จู่ๆ ผมก็เห็นพวกเขาและรู้ว่าพวกเขาจะไปรับครอบครัวเพื่อขึ้นเครื่องบินในเย็นวันนี้” นักธุรกิจกล่าว
อย่างไรก็ตามกรมข้อมูลของสภาทหารยังไม่ได้ออกแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทางสำนักข่าว RFA ก็ได้ติดต่อไปยัง พ.อ.มิน จ่อ อา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงและกิจการชายแดนแห่งรัฐกะเหรี่ยงแล้ว แต่ก็ไม่มีการรับสายโทรศัพท์แต่อย่างใด
สำหรับกรณีของเครื่องบินหมายเลข ATR 72-600 นั้นมีการรายงานจากสื่อในประเทศไทยว่าเครื่องบินลำนี้ได้บินมารอที่ท่าอากาศยานแม่สอดประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ปรากฎว่าคณะนายทหารเมียนมาไม่มา เครื่องบินจึงบินกลับไปประเทศทันที เนื่องจากทหาร KNU.และฝ่ายต่อต้านยังไม่ยอมปล่อยตัวนายทหารที่ถูกจับ โดยบรรยากาศในสนามบินเงียบมากมีแต่เจ้าหน้าท่าอากาศยานไปรอช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดำเนินการจัดการในท่าอากาศยาน
ต่อมาในช่วงบ่ายวันที่ 8 เม.ย.นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ (เอ็กซ์) ระบุว่าเครื่องบินที่ลงจอดที่สนามบินแม่สอดดังกล่าวนั้นเป็น จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นเรื่องการขอนำเครื่องบินพลเรือนมาลงเพื่อขนสิ่งของพลเรือน ไม่ได้มีการขนกำลังทหาร หรืออาวุธ หรือการขอลี้ภัยตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เป็นเรื่องคำขอทางการทูตเพื่อนำเครื่องบินพลเรือนมาขนย้ายสิ่งของทางการทูต ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ