สำนักงาน ป.ป.ช.ประจวบคีรีขันธ์ เผยแพร่มติชี้มูล ผู้บริหารอปท.-จนท.รัฐ 5 เรื่องรวด อดีตนายกเทศฯ กรูด รองฯ ผิดอาญา ละเว้นไม่แจ้งความดำเนินคดีเอกชนเททางลาดพื้นคอนกรีตรุกล้ำทางสาธารณประโยชน์ -จนท.เทศบาลฯ หนองพลับ เบียดบังเงินค่าน้ำประปา-นายกอบต.ทองมงคล เรียกรับเงินปรับปรุงถนน -ไปรษณีย์ ธนะรัชต์ ทุจริตไม่ส่งเงินเข้าระบบ -พนักงานสธ. ยักยอกเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เผยแพร่ข่าวมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 5 เรื่อง
เรื่องแรก
กรณีกล่าวหานายธงชัย เพชรสกุลทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด กับนายธนศักดิ์ ธรรมวิจิตร รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด อำเภอ บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ละเว้นไม่แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท ลิฟวิ่งเฮ้าส์ จำกัด กรณีเททางลาด พื้นคอนกรีตรุกล้ำทางสาธารณประโยชน์
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า นายธงชัย เพชรสกุลทอง ผู้ถูกล่าวหาที่ 1 และนายธนศักดิ์ ธรรมวิจิตร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มีมูลความผิดฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือ มีความประพฤติในทางนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือ แก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
เรื่องสอง
กรณีกล่าวหานายจำลอง แก้วไทรนันท์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทองมงคล อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรียกรับเงินจากโครงการปรับปรุงถนนลาดยางแคปซีลเป็นถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต และออกหนังสือรับรองผลงานโดยมิชอบ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของนายจำลอง แก้วไทรนันท์ ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลเป็นการกระทำฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
เรื่องสาม
กรณีกล่าวหา นางสาววนิดา การุญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ชำนาญงาน เทศบาลตำบล หนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เบียดบังเงินค่าน้ำประปาที่จัดเก็บได้นำไปใช้ส่วนตัวและปลอมใบเสร็จค่าน้ำประปา ของเทศบาลตำบลหนองพลับ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของนางสาววนิดา การุญ ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์หรือเอกสารใดอันเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้ หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 มาตรา 158 และมาตรา 161 ประกอบมาตรา 91 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เรื่องสี่
กรณีกล่าวหา นายสรวุฒิ นาวาทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน องค์การบริหาร ส่วนตำบลห้วยทราย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยักยอกเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยทราย ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตน
คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของนายสรวุฒิ นาวาทอง ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็น เจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
เรื่องห้า
กรณีกล่าวหานายศักดิ์ชาย เอี่ยมชัยปราณี ตำแหน่งพนักงานไปรษณีย์ 7 สังกัดที่ทำการไปรษณีย์ธนะรัชต์ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทุจริตไม่ดำเนินการส่งเงินเข้าระบบให้กับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของนายศักดิ์ชาย เอี่ยมชัยปราณี ผู้ถูกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ ในการชี้มูลความผิด ผู้บริหาร อปท. และเจ้าหน้าที่รัฐ 5 เรื่องนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นควรให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และให้ส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐานพร้อมความเห็นไปยัง ผู้มีอำนาจแต่งตั้ง ถอดถอน เพื่อดำเนินการหน้าที่และอำนาจกับผู้ถูกกล่าวหาต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุดผู้ถูกกล่าวหาทุกรายยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด