ตร.มาเลย์ เร่งสอบแรงจูงใจผู้ต้องหาอิสราเอล สั่งอาวุธปืนพก 6 กระบอกลักลอบขนจากไทย ก่อนใช้พาสปอร์ตฝรั่งเศสเดินทางเข้าประเทศ เจ้าตัวอ้างต้องการมาตามล่าตัวเพื่อนร่วมชาติ แต่ จนท.ยังไม่ปักใจเชื่อ สั่งคุมเข้มอารักขาบุคคลสำคัญ พร้อมเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังชายแดนไทย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวความคืบหน้ากรณีทางการมาเลเซียจับผู้ต้องหาจากอิสราเอล พร้อมกับอาวุธปืนจำนวนหนึ่ง โดยรายงานข่าวล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียระบุว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าวมีการสั่งอาวุธเป็นปืนพกและเครื่องกระสุนจากประเทศไทย
เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางการมาเลเซียได้มีการตรวจค้นผู้ต้องหาซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติเพิ่มเติม โดยทั้งหมดนั้นมีส่วนเชื่อมโยงกับชายชาวอิสราเอลที่ถูกจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพร้อมด้วยปืนพกและเครื่องกระสุนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
นายราซารุดดิน ฮุสเซน เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบแถลงกับผู้สื่อข่าวว่าจากการสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับชาวอิสราเอลพบว่าในตัวเขามีอาวุธปืนพก 6 กระบอก เครื่องกระสุนอีก 200 นัด ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงเตรียมที่จะตั้งข้อหาลักลอบขนอาวุธและดำเนินการฝากขังผู้ต้องสงสัยไปจนถึงวันที่ 7 เม.ย.
“ขณะนี้บุคคลที่อยู่ระหว่างการควบคุมตัวมีมากกว่า 2 ราย รวมทั้งชาวต่างชาติและชาวมาเลเซีย” นายราซารุดดินกล่าว
ย้อนไปเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา นายราซารุดดินเคยให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียได้จับกุมคู่สามีภรรยาชาวมาเลเซีย เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าทั้งสองได้จัดหาปืนพกและเครื่องกระสุนให้กับชาวอิสราเอลวัย 37 ปี และจับกุมชายที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้ชาวอิสราเอลนับตั้งแต่ที่เขามาถึงกรุงกัมลาลัมเปอร์
นายราซารุดดินกล่าวอีกว่าชาวอิสราเอลได้มีการจ่ายเงินเป็นจำนวน 1 หมื่นริงกิต (77,119 บาท) สำหรับปืนแต่ละกระบอก ซึ่งต้นตอปืนพกเหล่านี้ถูกลักลอบนำเข้ามาจากประเทศไทย
นายราซารุดดินกล่าววาผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมที่โรงแรมในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 27 มี.ค. หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแบะแสว่าผู้ต้องสงสัยใช้หนังสือเดินทางของฝรั่งเศสเมื่อเขาบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มายังมาลเซียเมื่อวันที่ 12 มี.ค.
สำหรับกรณีหนังสือเดินทาง เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา นายไซฟุดดิน นาซูติออน อิสมาอิล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาเลเซียได้ออกมาแถลงว่าหนังสือเดินทางฝรั่งเศสเหล่านี้ถูกอนุมัติให้อย่างถูกกฎหมายโดยสถานทูตฝรั่งเศสในกรุงเทลอาวีฟ
อย่างไรก็ตามในระหว่างการจับกุม ผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้แสดงหนังสือเดินทางอิสราเอลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนสถานทูตอิสราเอลในประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซียยังไม่แสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้
นายราซารุดดินกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าสำหรับผลการสอบสวนผู้ต้องหา เขาให้การยืนยันว่าต้องการมาตามล่าตัวชาวอิสราเอลอีกคนหนึ่ง และไม่มีแรงจูงใจในเรื่องอื่นๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียยังไม่ตัดความเป็นไปได้ในเรื่องอื่นๆ และยังสงสัยว่าถ้าหากต้องการจะตามล่าตัวแค่คนๆเดียว ทำไมถึงต้องมีการหาอาวุธเป็นปืนพกถึง 6 กระบอก
“เรายังคงตรวจสอบแรงจูงใจเบื้องหลังการครอบครองอาวุธปืน แต่ตอนนี้เราต้องมีการเข้มข้นในมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญในมาเลเซีย รวมไปถึงพระมหากษัตริย์และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย” นายราซารุดดินกล่าว
นายราซารุดดินกล่าวว่าการจับกุมและการตรวจพบอาวุธที่ลักลอบขนมาจากประเทศไทย ทางมาเลเซียคงต้องมีการเพิ่มเติมมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน
“ตํารวจโดยเฉพาะที่ชายแดนได้เสริมกําลังโดยเฉพาะในส่วนกองกําลังที่ปกป้องชายแดน ซึ่งหมายความว่าที่ชายแดนของเราเราจําเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการลักลอบนําเข้าหรือการแทรกซึมเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เรารู้ว่าชายแดนของรัฐกลันตันไม่มีรั้วกั้น ชายแดนมีแม่น้ำกั้นไว้เท่านั้น และหากเราวัดพื้นที่ที่อาจมีกิจกรรมลักลอบ ก็จะมีพื้นที่ประมาณ 100 กม.” นายราซารุดดินกล่าวและย้ำว่าแค่แม่น้ำไม่เพียงพอสำหรับการป้องกันการลักลอบได้
“ในช่วงฤดูแล้งเราสามารถเดินข้ามแม่น้ำได้โดยไม่ต้องใช้เรือ ดังนั้นเราจึงบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ว่าจะเป็นการลักลอบนำเข้าหรือออกจากประเทศไทย” นายราซารุดดินกล่าว
เรียบเรียงจาก:https://www.benarnews.org/english/news/malaysian/supect-update-04022024142408.html