สื่อสหรัฐฯเผย 40 ชาวอุยกูร์ในไทยอยู่คุมขังในสภาพเลวร้าย หลังหนีจากประเทศจีนเมื่อสิบปีก่อน แต่ถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ด้านที่ปรึกษา กสม.แนะหน่วยงานไทยเดินเรื่องคัดกรอง ส่วนฮิวแมนไรท์วอทช์เอเชียจี้ 'เศรษฐา' แสดงจุดยืนยึดหลักการสากลให้จีนรับทราบว่าส่งตัวกลับไม่ได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์กลุ่มเชื้อชาติอุยกูร์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยโดยอ้างอิงสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียของสหรัฐอเมริกาว่าพบว่ามีกลุ่มชาวอุยกูร์จำนวนมากกว่า 40 คน ซึ่งหนีจากการดำเนินคดีในประเทศจีนเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่ตอนนี้ชาวอุยกูร์เหล่านี้ยังคงถูกคุมขังในศูนย์กักกันที่แออัดเนื่องจากต้องข้อหาเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
โดยข้อมูลดังกล่าวนั้นถูกเปิดโปงในการสัมมนาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งชาวอุยกูร์จำนวนดังกล่าวนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มชาวอุยกูร์จำนวน 500 คนที่หนีมาจากเขตปกครองตนเองซินเจียง มายังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตั้งความหวังว่าจะได้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศตุรเคีย หลังจากที่เดินทางผ่านเข้าไปยังมาเลเซียได้เป็นผลสำเร็จ
แต่ปรากฏว่ามีเพียงแค่ประมาณ 100 คนเท่านั้นที่สามารถผ่านระเบียบราชการและผ่านด่านของเจ้าหน้าที่ไปได้
มีรายงานจากทางการว่าระหว่างการอพยพตั้งแต่ปลายปี 2556 ถึง 2557 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้จับกุมชาวอุยกูร์อย่างน้อย 475 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสวนยางพาราในจังหวัดสงขลา และควบคุมตัวพวกเขาในเดือนมีนาคม 2557
ทางด้านนางนางรัตติกุล จันทร์สุริยา ปรึกษาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่าชาวอุยกูร์ที่เหลือถูกกักขังในฐานะผู้อพยพผิดกฎหมาย ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย ภายใต้ "สภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่" ในศูนย์กักกัน ไม่สามารถพูดคุยกับบุคคลภายนอกได้ และชีวิตของชาวอุยกูร์อาจตกอยู่ในอันตรายหากถูกส่งตัวกลับประเทศจีน
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งหาประเทศที่สามที่เหมาะสมหรือจุดหมายปลายทางอื่น ๆ สําหรับผู้ถูกควบคุมตัวชาวอุยกูร์” นางรัตติกุลกล่าวและยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน เร่งดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องนี้
"หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งดําเนินการตามระเบียบการคัดกรองคนต่างด้าวที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต นี่เป็นกลไกสําคัญในการให้ความคุ้มครองแก่ผู้ขอลี้ภัย รวมถึงชาวอุยกูร์" นางรัตติกุลกล่าวต่อ
อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียได้พยายามติดต่อไปยังกระทรวงต่างประเทศของไทยเพื่อให้แสดงความเห็นในเรื่องนี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด
ทางด้านของนางชลิดา ตเจริญสุข ผู้อํานวยการมูลนิธิเสริมพลังประชาชน ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือชาวอุยกูร์ในประเทศไทยกล่าวว่าชาวอุยกูร์นั้นกลายเป็นคนกลุ่มเล็กๆที่ไม่มีความหมายอะไรเลย ประเทศจีนยังคงส่งจดหมายติดตามชาวอุยกูร์มายังกระทรวงต่างประเทศไทย
แม้ว่าตอนนี้สถานทูตตุรเคียในกรุงเทพออกมากล่าวว่าตุรเคียยินดีที่จะรับชาวอุยกูร์ทั้งหมดไปก็ตาม แต่จีนก็ได้ประท้วงเรื่องนี้และยังคงติดตามสถานะของผู้ถูกคุมตัวอย่างใกล้ชิด
ส่วนนายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อํานวยการภูมิภาคเอเชียขององค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า นายเศรษฐาจําเป็นต้องหยุดทำตัวคล้อยตามแรงกดดันของรัฐบาลจีน และควรจะสื่อสารไปยังจีนให้ชัดเจนว่า ไทยนั้นมีกฎหมายและยึดการดำเนินการตามมาตรฐานสากล ซึ่งนั่นก็คือการที่ไทยไม่สามารถส่งตัวเหล่าชาวอุยกูร์ไปให้กับจีนได้
เรียบเรียงจาก:https://www.rfa.org/english/news/uyghur/thailand-uyghurs-03112024055040.html