‘เศรษฐา’ ไม่เห็นด้วยมติ กนง.ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% ต่อปี แต่ไม่ก้าวก่ายหน้าที่ เพียงอยากเห็นนโยบายการคลังที่ไปด้วยกัน ชี้ความเห็นต่างระหว่างฝ่ายนโยบาย-ฝ่ายปฏิบัติมีอุปสรรคแน่ แต่ค่อยๆแก้กันไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี โดย 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี โดยเสียงข้างมากประเมินว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวชะลอลงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากแรงส่งจากภาคต่างประเทศที่น้อยลงและผลกระทบจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง แต่การบริโภคยังขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวนั้น
ล่าสุด ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า ต้องน้อมรับว่าเป็นหน้าที่ของ กนง. รัฐบาลเราไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายอะไร หน้าที่ของตนคือ ให้ข้อคิดเห็นในฝ่ายรัฐบาลว่า ควรจะทำอย่างไรบ้าง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอยู่ตรงไหน แต่ผลโหวตออกมาอย่างนั้น รัฐบาลไปก้าวก่ายไม่ได้ ถามว่าเห็นด้วยไหม คงไม่เห็นด้วย ทาง กนง.มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายด้านการเงิน แต่เราเองก็อยากเห็น อย่างที่เคยเรียน และที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เคยบอกว่า อยากเห็นนโยบายการเงินการคลังเดินไปด้วยกัน เพราะตอนนี้เงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 4 เดือนแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุม กนง.ครั้งนี้ ดอกเบี้ยไม่ลด การประชุมครั้งหน้า คาดหวังว่าดอกเบี้ยจะลดใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ต้องดูตัวเลขไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีธงว่า ต้องลดหรืออะไร เพราะตัวเลขมันออกมาตลอดเวลา ถ้าเกิดตัวเลขบ่งชี้ไปว่า ไม่จำเป็นต้องลด ก็จะออกมาบอกในความคิดเห็นของตนเป็นการเห็นต่าง เห็นด้วย หรือเห็นสมควร หรือต้องการโน้มน้าวก็ต้องมีการพูดคุยก็จะทำต่อไป
เมื่อถามอีกว่า ความเห็นต่างระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติที่ออกมาแบบนี้ การเดินหน้าบริหารนโยบายจะทำให้มีอุปสรรคอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีอุปสรรคก็ต้องแก้ไขกันไปทุกๆ เรื่อง ทั้งยาเสพติด ความปลอดภัยภาพรวมประเทศ ปัญหา PM 2.5 เรามาอยู่ตรงนี้แล้ว เราถูกเลือกมาแล้วเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน เราถูกเลือกให้มาดูแลปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ทุกปัญหามีความยากง่ายแตกต่างกันไป ก็พยายามต่อไป ไม่ได้เสียกำลังใจ ไม่ได้ท้อถอย เพราะเรามายืนตรงนี้แล้ว ความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องดูแล ถึงแม้จะมีความเห็นต่างก็ต้องพูดคุยกัน