เผยมติ ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ ตีตกข้อกล่าวหา 'บุญศรี แสวง' อดีตนายก อบต.ดอกไม้ ร้อยเอ็ด ทุจริตโครงการก่อสร้างถนนดินเชื่อมทางหลวงจัดหาผู้รับจ้างเข้ามาเป็นคู่สัญญา-ราคาสูงเกินจริง หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิด ไม่มีมูล
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2566 เสียงเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา นางบุญศรี แสวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ทุจริตโครงการก่อสร้างถนนดินเชื่อมทางหลวงบริเวณเชิงสะพาน 1 (สะพานข้ามลำเสียว) และเชิงสะพาน 3 (สะพานข้ามลำเสือโก๊ก) โดยในการจัดซื้อจัดจ้างผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้จัดหาผู้รับจ้างเข้ามาเป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้และดำเนินการก่อสร้างในราคาสูงเกินความเป็นจริง
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า นางบุญศรี แสวง ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 องค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนดินเชื่อมทางหลวงบริเวณเชิงสะพานทางไปอำเภอเกษตรวิสัย จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ สะพานที่ใกล้กับบ้านยางเลิง หมู่ที่ 12 ซึ่งประชาชนในพื้นที่เรียกว่าสะพาน 1 (สะพานข้ามลำเสียว) และบ้านยางเลิง หมู่ที่ 5 เรียกว่า สะพาน 3 (สะพานข้าม ลำเสือโก๊ก) โดยการก่อสร้างถนนทั้งสองแห่งนั้น องค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ได้จ่ายขาดเงินสะสม จำนวน 90,000 บาท และ 80,000 บาท ตามลำดับ
ให้เหตุผลในการก่อสร้าง ว่าเพื่อให้ชาวบ้านขนข้าวได้สะดวกทั้งที่ความจริงแล้วบริเวณที่ใช้ก่อสร้างถนนทั้งสองแห่งนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ได้ขุดทำเป็นทางเชื่อมเดิมอยู่แล้วและได้ใช้สัญจรเป็นประจำ
ในส่วนงบประมาณที่นำมาใช้ในการก่อสร้างถนนทั้งสองแห่งนั้น มีการกำหนดราคากลางสูงเกินจริง เนื่องจากบริเวณที่ก่อสร้างถนนดังกล่าวมีถนนคันดินเดิมอยู่แล้ว และดินที่ใช้ในการถมถนนก็เป็นดินที่ขุดจากบริเวณนั้น มิได้ซื้อมาจากที่อื่น ซึ่งการก่อสร้างถนนทั้งสองแห่งน่าจะใช้งบประมาณ ไม่เกินโครงการละ 30,000 บาท เท่านั้น
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า จากการไต่สวนเบื้องต้นข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหา (นางบุญศรี แสวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้) นำเอกสารของร้าน พ.รุ่งเรือง มาให้นางสุภาพ ชาติมนตรี เจ้าพนักงานพัสดุ และสั่งการให้นางสุภาพ ชาติมนตรี จัดทำรายงานขออนุมัติจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีตกลงราคากับร้าน พ.รุ่งเรือง เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างถนนดินเชื่อมทางหลวงบริเวณเชิงสะพาน 1 (สะพานข้ามลำเสียว) หรือโครงการก่อสร้างถนนดินพร้อมปรับเกลี่ยเรียบ หมู่ที่ 12 บ้านยางเลิง และผู้ถูกกล่าวหา (นางบุญศรี แสวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้) ก็ได้อนุมัติให้จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีตกลงราคากับร้าน พ.รุ่งเรือง และลงนามในใบสั่งจ้างตกลงจ้างร้าน พ.รุ่งเรือง เป็นผู้รับจ้างดำเนินการตามโครงการดังกล่าว โดยตกลงจ้างในราคา 97,500 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ 98,000 บาท โดยเป็นการตกลงจ้างกับผู้รับจ้างที่ผู้ถูกกล่าวหา (นางบุญศรี แสวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้) เป็นผู้ติดต่อหามาด้วยตนเอง โดยเจ้าหน้าที่พัสดุไม่ได้เป็นผู้ติดต่อหาผู้รับจ้าง ซึ่งตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นระเบียบที่ใช้บังคับในขณะเกิดเหตุ ข้อ 25 กำหนดว่า "การซื้อหรือจ้างโดยวิธีตกลงราคา ให้ประธานกรรมการบริหารตกลงราคากับผู้ขายหรือผู้รับจ้างแล้วจัดซื้อหรือจ้างได้ภายในวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากประธานกรรมการบริหาร"
ดังนั้น การที่ผู้ถูกกล่าวหา (นางบุญศรี แสวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้) เป็นผู้ติดต่อหาผู้รับจ้างด้วยตนเองและตกลงจ้างผู้รับจ้างที่ตนเป็นผู้ติดต่อหามา จึงเป็นการดำเนินการ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2538 ข้อ 25 และเมื่อผู้ถูกกล่าวหา (นางบุญศรี แสวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้) เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการตกลงราคากับผู้รับจ้างได้เองโดยตรง ซึ่งถือว่าได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งของตน จึงมิใช่เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้เข้าไปแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พัสดุโดยมิชอบแต่อย่างใด
อีกทั้งร้าน พ.รุ่งเรือง ผู้รับจ้าง ก็ได้ปฏิบัติงานเป็นไปตามข้อตกลงในใบสั่งจ้าง ซึ่งคณะกรรมการตรวจงานจ้างก็ได้รับรองว่าผู้รับจ้างทำงานถูกต้องครบถ้วน ประกอบกับทางไต่สวนไม่ปรากฏพยานหลักฐาน ที่แสดงว่าผู้ถูกกล่าวหา (นางบุญศรี แสวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้) ได้กระทำการใดอันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับจ้าง เพื่อให้ผู้รับจ้างได้เข้าเป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหา (นางบุญศรี แสวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้) กระทำการโดยเจตนาทุจริตหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่ร้าน พ.รุ่งเรือง ให้ได้เป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคากันอย่างเป็นธรรม
เมื่อโครงการก่อสร้างถนนดินเชื่อมทางหลวงบริเวณเชิงสะพาน 1 (สะพานข้ามลำเสียว) หรือโครงการก่อสร้างถนนดินพร้อมเกลี่ยเรียบ หมู่ที่ 12 บ้านยางเลิง มีการคิดคำนวณเฉพาะค่าแรงงาน โดยไม่ได้คิดคำนวณราคาดินถม ซึ่งวิธีการประเมินราคางานดินถมพร้อมปรับเกลี่ยเรียบ ในปีงบประมาณ 2552 จะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลาง งานก่อสร้างทาง สะพาน และท่อเหลี่ยม ของสำนักพัฒนามาตรฐานระบบพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งประกาศใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งตามตารางค่าดำเนินการและค่าเสื่อมราคา อัตราค่างานดินที่ราคาน้ำมันขายปลีก ณ เดือนธันวาคม 2551 เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 19 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งตามเอกสารขออนุมัติกำหนดราคากลาง โครงการจ้างเหมาปรับปรุงถนนดิน หมู่ที่ 12 บ้านยางเลิง ขององค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2551 ค่าดำเนินการและค่าเสื่อมราคา อัตราราคางานดินที่ราคาน้ำมันขายปลีก ณ เดือนธันวาคม 2551 จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 19 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อตรวจสอบจากตารางค่าดำเนินการและค่าเสื่อมราคาอัตราราคางานดิน สำหรับงานดินคันทาง คิดคำนวณเฉพาะ ค่าขุด - ขน อัตราค่างานอยู่ที่ 16.94 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อรวมกับค่าบดทับอีก 31.48 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร รวมค่าขุด- ขน กับค่าบดทับจะเป็นราคา 48.42 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อเปรียบเทียบกับเอกสารแบบรูปรายการ สรุปผลการประมาณราคาก่อสร้างราคากลาง และเอกสารประมาณราคาโครงการก่อสร้างถนนดิน หมู่ที่ 12 ของส่วนโยธา องค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2551 ซึ่งแบบรูปรายการมีการระบุให้คันทางดินถม เป็นแบบอัดแน่น แต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีการขุด - ขน หรือนำดินมาจากแหล่งใด ซึ่งแสดงว่าตามแบบรูปรายการได้มีการกำหนดค่างานขุด - ขน ซึ่งมีอัตราค่างานอยู่ที่ 16.94 บาทต่อลูกบาศก์เมตร รวมกับค่าบดทับแล้ว องค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ได้กำหนดค่าแรงต่อหน่วยอยู่ที่ 31.15 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร ดังนั้น เมื่อราคากลางขององค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ได้กำหนดค่าแรงงานต่อหน่วยอยู่ที่ 31.15 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร ราคาจึง ไม่สูงเกินหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้าง ทางสะพาน และท่อเหลี่ยมของสำนักพัฒนามาตรฐานระบบพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งประกาศใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
สำหรับวัสดุต่อหน่วยของงานวางท่อระบายน้ำ Ø 1.00 × 1.00 เมตร ต้องใช้หลักเกณฑ์ราคาประเมินของสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นผู้รายงานข้อมูลต่อสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้าทุกเดือน ซึ่งราคาสินค้าเฉลี่ยวัสดุก่อสร้าง (ราคาเงินสด ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่รวมค่าขนส่ง) ของจังหวัดร้อยเอ็ด ในเดือนธันวาคม 2551 ลำดับ 54 ระบุว่า "ท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก ปากลิ้นรางชั้น 3 ยาว 1 เมตร ศก. 0.80 เมตร ท่อนละ 1,542.06 บาท"
เมื่อเทียบกับราคาที่ปรากฏในเอกสารสรุปผลประมาณราคากลางก่อสร้าง โครงการก่อสร้างถนนดิน หมู่ที่ 12 ของส่วนโยธาองค์การบริหารส่วนตำบลดอกไม้ที่กำหนดค่าวัสดุต่อหน่วยสำหรับงานวางท่อระบายน้ำ Ø 1.00 × 1.00 เมตร ท่อนละ 1,100 บาท ซึ่งเป็นท่อขนาดใหญ่กว่าท่อระบายน้ำที่กำหนดในเอกสารราคาสินค้าเฉลี่ยวัสดุก่อสร้าง (ราคาเงินสด ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่รวมค่าขนส่ง) ของจังหวัดร้อยเอ็ด ในเดือนธันวาคม 2551 ลำดับที่ 54 จึงเป็นราคาที่ไม่สูงเกินราคาสินค้าเฉลี่ยวัสดุก่อสร้าง(ราคาเงินสด ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่รวมค่าขนส่ง) ของจังหวัดร้อยเอ็ด ในเดือนธันวาคม 2551 ลำดับที่ 54
สำหรับโครงการก่อสร้างถนนดินเชื่อมทางหลวงบริเวณเชิงสะพาน 3 (สะพานข้ามลำเสือโก๊ก) หรือโครงการก่อสร้างถนนดินพร้อมเกลี่ยเรียบ หมู่ที่ 5 บ้านยางเลิง เมื่อการประมาณราคาก่อสร้างโครงการก่อสร้างถนนดินเชื่อมทางหลวงบริเวณเชิงสะพาน 3 (สะพานข้ามลำเสือโก๊ก) หรือโครงการก่อสร้างถนนดินพร้อมเกลี่ยเรียบ หมู่ที่ 5 บ้านยางเลิง ซึ่งคิดคำนวณเฉพาะค่าแรงงาน โดยไม่ได้คิดคำนวณราคาดินถม ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับโครงการก่อสร้างถนนดินบ้านยางเลิง หมู่ที่ 12 ตำบลดอกไม้ และทั้งสองโครงการมีขนาดความกว้าง ความยาว และความหนาเท่ากัน และตั้งงบประมาณไว้ 98,000 บาท เท่ากัน เมื่อโครงการก่อสร้างถนนดินบ้านยางเลิง หมู่ที่ 12 ตำบลดอกไม้ ราคาก่อสร้างไม่สูงเกินหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างทาง สะพาน และท่อเหลี่ยมของสำนักพัฒนามาตรฐานระบบพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งประกาศใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ดังนั้น ราคาก่อสร้างตามโครงการก่อสร้างถนนดินเชื่อมทางหลวงบริเวณเชิงสะพาน 3 (สะพานข้ามลำเสือโก๊ก) ซึ่งตั้งงบประมาณไว้ 98,000 บาท จึงเป็นราคาก่อสร้างไม่สูงเกินหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลาง งานก่อสร้างทาง สะพาน และท่อเหลี่ยมของสำนักพัฒนามาตรฐานระบบพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งประกาศใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เช่นเดียวกัน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 122/2566 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ประชุมพิจารณารายงานการไต่สวนเบื้องต้นแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่าจากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า นางบุญศรี แสวง ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา
ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป