สื่อรัฐบาลจีนโต้สหรัฐฯ หยุดบิดเบือน คุกคามบริษัทจีนใช้ชิ้นส่วนรถยนต์จากไทย ชี้ข้อกล่าวหาเลี่ยงกำแพงภาษี มีนัยยะทางการเมืองต้องการบั่นทอนเอกชนจีนขึ้นแท่นผู้ผลิตรถชั้นนำระดับโลก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ทีผ่านมา บรรณาธิการสำนักข่าวไชน่าเดลี่ ซึ่งเป็นสื่อภาคภาษาอังกฤษของรัฐบาลจีนได้ออกบทความเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาหยุดรังแกบริษัทชิ้นส่วนรถยนต์จีนที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ชิ้นส่วนจากประเทศไทยเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา
โดยบทความมีรายละเอียดดังนี้
กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐอเมริกา (DHS) ได้มีการออกหมายบริษัทย่อยที่ตั้งอยู่ในรัฐโอไฮโอ ของบริษัทชิงเต่า ซุนซอง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของจีน โดยการออกหมายค้นมาจากการที่คณะกรรมการของรัฐสภาสหรัฐฯ กล่าวหาว่าบริษัทฉ้อโกงทางการค้า
เจ้าหน้าที่ DHS ได้มีการเข้าตรวจค้นสถานที่ของบริษัท Harco Manufacturing Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ชิงเต่า ซุนซองได้เข้าซื้อกิจการไปเมื่อปี 2558 โดยวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ DHS กล่าวว่าพวกเขากำลังดำเนินการสืบสวนอยู่ใน ซึ่งการสืบสวนเกิดขึ้นหลังจากที่สมาชิกสองคนของคณะกรรมการคัดเลือกของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในด้านเกี่ยวกับประเทศจีนได้ทำจดหมายเมื่อเดือน ก.ย.ส่งไปถึง DHS กล่าวหาว่าบริษัทจีนย้ายฐานการผลิตบางส่วนมายังประเทศไทยเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ในจดหมายนายไมค์ กัลลาเกอร์ สส.จากรัฐวิสคอนซิน และนายดาริน ลาฮูด สส.จากรัฐอิลลินอยส์ พรรครีพับลิกันกล่าวหากิจกรรมของบริษัทชิงเต่า ซุนซองว่าเป็น "กรณีการฉ้อโกงทางการค้าอย่างโจ่งแจ้งซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้ผลิตชาวอเมริกัน" นี่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ยังคงใช้วิธีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อสร้างความชอบธรรมในการปราบปรามบริษัทจีน
อนึ่งการที่สมาชิกพรรครีพับลิกันทั้งสองได้ตั้งข้อหากับบริษัทจีน หลังจากการตรวจสอบข้อมูลที่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะนั้นเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจยิ่ง ในประวัติศาสตร์ของการดำเนินคดีอาญาทางธุรกิจ สำหรับข้อหาที่มีต่อบริษัทหนึ่งว่าใช้เรื่องของกระบวนการถ่ายโอนเพื่อเป็นเครื่องมือในการหลบเลี่ยงภาษีนำเข้า 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พวกเขาได้กล่าวหาบริษัทชิงเต่า ซุนซอง
ข้อกล่าวหาของ สส.ทั้งสองคนระบุว่าการกระทำของบริษัทนั้นละเมิดกฎหมาย และบ่อนทำลายความมั่นคงชาติของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามถ้าหากข้อกล่าวหาที่ว่านี้เป็นเรื่องจริง ก็เป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้ว่าทำไมต้องปล่อยให้เวลาผ่านไปนานถึงสามเดือน DHS ถึงได้ดำเนินการดังกล่าว
บริษัทชิงเต่า ซุนซอง อันที่จริงตกเป็นเป้าหมายเพราะเรื่องง่ายๆ นั่นก็คือบริษัทนี้อยู่ในตำแหน่งผู้นำในตลาดการขายรถยนต์ทั่วโลก จึงทำให้ต้องมีการสร้างพื้นที่สั่นคลอนและสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากสำหรับบริษัทจีนที่กำลังเผชิญอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งนี่เป็นผลมาจากการที่บางภาคส่วนในสหรัฐฯ ต้องการทำให้ประเด็นเรื่องการเมืองและการค้ากลายมาเป็นอาวุธระหว่างสองประเทศ แต่การกระทำเช่นนี้ได้ขัดขวางความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีตามปกติ
ตัวอย่างเช่นกรณีบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ เพิ่งประกาศว่าได้หยุดการเป็นหุ้นส่วนกับ บริษัท แบตเตอรี่ CATL (บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่และเทคโนโลยีของจีน) ชั่วคราวหลังจากที่ประธานคณะกรรมการสภาสามคนเรียกร้องให้ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับบริษัทจีน
การเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนและใช้เพื่อปราบปรามบริษัทจีนได้กลายเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไปในสหรัฐฯ ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการดําเนินงานตามปกติของบริษัทจีน แต่ยังบ่อนทําลายความเชื่อมั่นของธุรกิจจีนในการลงทุนในสหรัฐฯ
ดังนั้นวอชิงตันจึงควรที่จะยุติการคุกคามบริษัทจีนและทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย สร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใสและเป็นธรรม สอดคล้องกังหลักปฏิบัติที่เป็นสากลและตามคํามั่นสัญญาที่ให้ไว้กับจีน
เรียบเรียงจาก:https://global.chinadaily.com.cn/a/202401/31/WS65ba35eba3104efcbdae8f98.html
อ่านประกอบ:
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 