‘ภูมิธรรม’ เผยเอง บอรืดดิจิทัลวอลเลตยังไม่ประชุมสัปดาห์นี้ หลังมีกระแสข่าว ป.ป.ช.จะส่งความเห็นประกอบมา คาดไม่เกิน 1-2 สัปดาห์นี้รู้ผล ก่อนยืนยันเดินหน้าตามแผนเดิมทั้งหมด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 16 มกราคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 19-21 ม.ค.
ขณะที่วันเดียวกันนี้ มี ครม. แจ้งลาการประชุม 5 คน ประกอบด้วย 1. นายเศรษฐา 2. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่ระหว่างร่วมคณะนายกรัฐมนตรีไปประชุม WEF 3. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะนายกรัฐมนตรีไปประชุม WEF 4. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ 5. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
@รอหนังสือความเห็นป.ป.ช. เลื่อนบอร์ดดิจิทัลวอลเลต
นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่า การประชุมเลื่อนไปแล้ว รอช่วงสั้นๆ เพราะรัฐบาลได้รับหนังสือมาจากกฤษฎีกาแล้ว และได้ทราบว่า จะมีหนังสือจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย ก็เลยคิดว่า จะเอาทั้ง 2 ฉบับเข้าทีเดียวไม่ต้องประชุมหลายครั้ง เพราะไม่รู้ข้อเสนอแนะกับมาตรการต่างๆ ไปด้วยกันหรือเปล่า หรือว่ามันมีอะไรที่แตกต่างกัน ฉะนั้น วันนี้ทราบมาว่า หนังสือทาง ป.ป.ช.จะมีมา ก็จะรอดูว่ามีอะไรบ้าง และคิดว่าถ้าเรียบร้อยก็จะจัดประชุมทั้ง 2 เรื่องทันที ไม่เช่นนั้นถ้าออกมาตรการจากทางกฤษฎีกาไป หาก ป.ป.ช. มีเห็นต่างเราก็อาจจะติดขัดได้ ก็เลยรออีกสักนิดซึ่งอาจจะดีด้วยถ้านายกฯกลับมาพอดีจะได้ประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลให้น้ำหนักการเดินหน้าเงินดิจิทัลวอลเลต ที่ ป.ป.ช.จะมีความเห็นมาอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกคนมีน้ำหนักเท่ากัน ประชาชนเสนอมา การเมืองเสนอ พรรคร่วมฝ่ายค้านหรือพรรคร่วมรัฐบาลเสนอมาก็ให้น้ำหนักเท่ากัน คือ จะรับฟังภายใต้เงื่อนไขวัตถุประสงค์ของโครงการ หากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์และไปไกลจากวัตถุประสงค์ที่จะทำอาจจะต้องพิจารณาให้ความสำคัญในอีกระดับหนึ่ง ถ้าเป็นเรื่องที่ตรงกับวัตถุประสงค์และมีข้อเสนอแนะที่น่ารับฟังก็จะเป็นเรื่องใช้ในการพิจารณาประกอบให้มากขึ้น
เมื่อถามว่า จะมีคำตอบให้ประชาชนได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องมีเพราะเป็นนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน เนื่องจากรัฐบาลมาในช่วงที่รัฐบาลอยู่ในสภาพที่เศรษฐกิจประเทศแย่ และความไม่ต่อเนื่องของงบประมาณก็มีอยู่ ฉะนั้นการดำเนินการจึงไม่ใช้เงื่อนไขเหมือนปกติที่รัฐบาลเข้ามาแล้วสามารถใช้เงินงบประมาณในการจัดสรรได้
“ขณะนี้ต้องรอถึงเดือนพฤษภาคม งบปี 67 ถึงจะได้ใช้ วันนี้งบปี 67 ใช่แค่เฉพาะงบประจำกับเงินเดือนข้าราชการเป็นหลัก ส่วนงบลงทุนยังใช้อะไรไม่ได้ ฉะนั้น เราอยู่ในสภาพแบบนี้แต่เราไม่ได้ให้ข้อจำกัดเหล่านี้มาเป็นข้อสะดุดหยุดลงของโครงการ เพราะถือเป็นโครงการสำคัญ เราเริ่มต้นจากการประเมินว่าเศรษฐกิจมีปัญหา รู้ทั้งหลักวิชาการ ซึ่งอาจจะมองแตกต่างกันได้ ดูทั้งเงื่อนไขประชาชนที่เราประสบพบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า คนยากคนจน หรือแม้กระทั่งคนชั้นกลาง เอสเอ็มอี หรือธุรกิจทั้งหมด ทุกคนรู้สึกว่ามันเป็นปัญหา มีสภาพที่ไม่ขยับขับเคลื่อน หลายบริษัทต้องปิดกิจการลง โดยเฉพาะเอสเอ็มอีในช่วงวิกฤตที่ผ่านมาปิดลงไปเยอะ ฉะนั้นความจำเป็นที่เราคิดว่าจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้วงจรเศรษฐกิจหรือความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจทั้งหมดขับเคลื่อนมีความสำคัญ” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
@ต้องขยับทุนนิยมให้เดินหน้า
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ประเทศเราอยู่ในระบบทุนนิยมจะนิ่งเฉยอย่างนี้ไม่ได้ ฉะนั้น เราจำเป็นต้องขับเคลื่อน แต่การขับเคลื่อนในโครงการดิจิทัลวอลเลตเป็นการขับเคลื่อนที่ให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและการสร้างงาน ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน วันนี้ มีการเถียงกันในเรื่องหลักการ และเถียงในเรื่องวิธีคิด ในเรื่องระบบการจัดการ ไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญ แต่การเถียงกันทั้งหมดต้องอิงฐานที่พี่น้องประชาชนประสบอยู่ เราอยู่ในระบบทุนนิยม จะขยับระบบทุนนิยมให้เดินหน้าไปได้ ก็ต้องคำนึงถึงจิตใจและความมนุษย์ของประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ฉะนั้นโครงการนี้เป็นโครงการที่เราพุ่งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่โครงการแจกเงิน และเชื่อว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้า จะทำให้การจ้างงานเกิดขึ้นภายใต้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังมีโครงการอื่นๆของรัฐบาลอีกหลายเรื่องทั้งเรื่องเศรษฐกิจการค้า การขับเคลื่อนองค์กรของรัฐ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญอีกตัวหนึ่งที่จะทำให้เกิดขึ้นมา
“ฉะนั้น ขอความกรุณาอย่าเอาวิชาการมานั่งเถียงกัน แต่เอาวิชาการมาเป็นข้อพึงระวังได้และต้องคำนึงถึงชีวิตที่เป็นจริง เพราะเวลาเราถกเถียงกันในหมู่ข้าราชการระดับสูงหรือนักวิชาการก็ดี เราเถียงบนพื้นฐานที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ประสบปัญหาที่พี่น้องประชาชนได้รับ จึงอยากเชิญชวนให้เรื่องนี้มาช่วยกันพูด ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ปัญหามันดีขึ้น ถ้ามีวิธีการที่ดีกว่านี้เราไม่ขัดข้องอะไรยินดีรับฟัง มีอะไรที่บอกว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่กลไลราชการในปัจจุบันถือเป็นกลไกเดิมที่ทำอยู่ในรัฐบาลเดิม และทำวิธีการเดิมๆ ดังนั้น เรายังไม่เห็นว่าภายใต้กลไกที่เคยทำปฏิบัติมาแบบเดิมๆ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรให้ดีขึ้น การที่เราเสนอสิ่งใหม่ควรดูในกรอบของสิ่งใหม่ และดูว่าตรงนั้นต้องปรับปรุงแก้ไขอะไรเพื่อให้เดินหน้าได้ ฉะนั้น ผมขอเชิญชวนทุกฝ่ายเริ่มต้นจากความเป็นจริง เอากรอบวิชาการมาจับ อย่าใช้ความรู้สึกเฉพาะด้านของตัวเอง และต้องยอมรับว่าเรื่องต่างๆในการแก้ไขต้องใช้ความร่วมมือด้วยกันทุกๆเรื่อง วันนี้เป็นระบบทุนนิยมเราแข่งขันสู้กัน พยายามจัดการให้ระบบดีที่สุดแต่ก็ต้องเป็นทุนนิยมที่มีหัวใจและคำนึงถึงความเป็นจริงของมนุษย์และคนในประเทศไทยด้วยกัน” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
@1-2 สัปดาห์รู้ความเห็น ป.ป.ช.
สื่อมวลชนถามว่า ความเห็นของ ป.ป.ช.จะมาตอนไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ได้ยินว่าจะมาเร็วๆนี้ เมื่อรับทราบมาเราก็เลยรอ ตนว่าอาทิตย์สองอาทิตย์ก็ควรรู้แล้ว พอดีนายกรัฐมนตรีก็กลับมา และอีก 2 วันตนต้องไปสหรัฐอเมริกาและกลับมาใกล้ๆ กัน จะพร้อมกันทันทีจะเป็นวันที่ประชุมครม.สัญจร หลังจากนั้น ทุกอย่างมันมาก็อาจจะเดินหน้าได้ทุกเรื่องหลังจาก ครม.สัญจรจะเอาเรื่องเข้า ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและอีกหลายๆ เรื่อง
เมื่อถามว่า ถ้า พ.ร.บ.กู้เงินเดินไปไม่ได้รัฐบาลจะมีแผนสำรองอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กรอบใหญ่คิดไว้แล้ว แต่รอให้เหตุการณ์มันเกิดขึ้นว่าอะไรเป็นอย่างไร และเราก็แก้จากความเป็นจริงจะดีกว่า อย่าใช้คำว่าถ้าบ่อย คำว่าถ้าบ่อยเป็นการจินตนาการ เราคิดไว้แล้วกรอบต่ำๆจะเป็นอะไรอย่างไร ถ้าได้หรือไม่ได้อะไรก็จะทำอย่านั้น ส่วนถ้ามันเกิดหรือไม่เกิดก็ไม่รู้ รอให้เกิดขึ้นจริงๆแล้วค่อยมาถามก็ได้
@ยืนยันเดินหน้า ดิจิทัลวอลเลต
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า งบประมาณที่จะนำมาใช้กับโครงการนี้มีแน่นอนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการนี้ ส่วนจะได้อะไรขึ้นอยู่กับข้อจำกัดและข้อเสนอของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องทางกฎหมายซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติเราก็คงเอามาปรับใช้ หากเป็นเรื่องความเห็นรัฐบาลต้องยืนยันความเห็นของเราเองในการดำเนินการถ้าเราเห็นต่าง ถ้าเห็นด้วยก็ไม่มีปัญหา นโยบายนี้ไม่ใช่นโยบายที่คิดขึ้นมาลอยๆแต่เป็นนโยบายที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมกันคิดตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาลแะได้แถลงต่อรัฐสภาอย่างถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย ฉะนั้น ความชอบธรรมที่จะดำเนินนโยบายนี้ตามที่รัฐสภาเลือกมาจากประชาชนถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องและชอบธรรมที่สุด เพียงแต่เรารับฟังเพื่อให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องสบายใจและให้รอบด้านครบถ้วนมากที่สุดเท่านั้นเอง อย่าใช้บางประเด็นหรือบางส่วนมาขวางทุกเรื่องแล้วทำไม่ได้เลย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ววันนี้รัฐบาลมีความยากลำบากในการที่จะทำงานเนื่องจากไม่มีกลไกหลายๆ อย่าง มีกฎหมายหลายเรื่องและยังมีเรื่องที่ค้างจากรัฐบาลเดิม ฉะนั้น ส่วนต่างๆ เหล่านี้เราใช้เวลาช่วงต้นในไตรมาสแรกของการเข้ามาเป็นรัฐบาล 3 เดือนที่ผ่านมาใช้ในการคลี่คลายและแก้ไขปัญหา ทุกคนรู้อยู่แล้วรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจหรือไม่ได้เฉยอยู่กับที่ รัฐบาลแก้ไขกลไกต่างๆ ที่จะรองรับได้ ฉะนั้นอยากให้ทุกคนดูในภาพรวมและให้ช่วยกันคิดว่าประเทศชาติจะหลุดพ้นจากวิกฤติที่เป็นอยู่นี้อย่างไร การจะบอกว่าวิกฤติหรือไม่วิกฤต หรือมาวิจารณ์รัฐบาลดำเนินการแบบนั้นโดยเอาความชนะคะคานทางการเมืองเป็นที่ตั้ง อยากให้เข้ามาดูความเป็นจริงและช่วยกันคิด และให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลมากที่สุดและช่วยกันคิด เพราะประเทศนี้เป็นของประชาชนทุกคน
@เดินตามแผนเดิม
เมื่อถามว่า ระเบียบการเงินการคลังส่วนหนึ่งที่บอกว่าเศรษฐกิจต้องวิกฤตจริงๆ ถึงจะออก พ.ร.บ.กู้เงินได้ ตรงนี้รัฐบาลคิดเห็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เศรษฐกิจวิกฤตจริงๆ ใครเป็นคนกำหนดว่าวิกฤต ถามตน ตนบอกว่าวิกฤต แต่ถ้าถามฝ่ายค้านก็บอกว่าไม่วิกฤต ทั้งที่ก่อนฝ่ายค้านจะเข้ามาก็มองว่าวิกฤตและจะแก้ปัญหาร่วมกัน มันต้องดูความเป็นจริงไม่ใช่พูดตามวาระอารมณ์หรือตามสถานการณ์ต่างๆ เมื่อถามว่า มีแนวโน้มว่าจะยืดระยะเวลาออกไปจากเดิมใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เวลานี้เราวางทุกอย่างเดินตามแผนทั้งหมด ส่วนจะยืดหรือไม่ยืดขึ้นอยู่กับความเป็นจริงที่ได้รับ ถ้าบอกมาแล้วยังไปไม่ได้ต้องมาดำเนินการหาทางออก ถ้าไปไม่ได้แล้วต้องยืดมันก็ต้องยืด แต่วันนี้เรายังวางไทม์ไลน์ไว้อย่างเดิม ยังไม่ได้มีอะไรมาหักล้างที่ทำให้เราต้องผิดเพี้ยนไปจากนี้ และเราก็คิดถึงทางยากลำบากที่มันจะเกิดขึ้นกับสภาพที่เป็นปัญหา ฉะนั้นต้องช่วยกันคิดเพื่อให้เดินหน้า ไม่ใช่ช่วยกันคิดเพื่อให้หยุดอยู่กับที่
เมื่อถามอีกว่า รัฐบาลตั้งเป้าจะเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงินดิจิทัลเข้าสภาเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยัง ต้องเคลียร์ให้ทั้งหมดว่าอะไรเป็นอะไร และทุกคนต้องเข้าใจสิ่งที่ตนพูด ต้องดูว่าของจริงจะให้ไปได้อย่างไร วันนี้ถ้าบอกว่าจะไปกู้ไหม จะไปโน่นนี่นั่นมันตอบไม่ได้ เพราะข้อสรุปต่างๆ ยังไม่ครบถ้วน อย่ามองอะไรไกลเกินจากความเป็นจริง แล้วมาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะมีข้อเสนออะไรสำหรับความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นนี้ ดีกว่ามาบอกว่าไปโน่นไปนี่แล้วมาจินตนาการต่างๆ ถ้าคนของรัฐบาลตอบไม่ตรงกันหรือตอบมีปัญหาซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ จะกลายเป็นว่าไม่พร้อม ไม่ได้ดูแลมาตั้งแต่ต้น ไม่ได้คิด ตนคิดว่าเป็นข้อเสนอวิจารณ์ที่ไม่ได้อยู่ในใจ ที่มีความรู้สึกร่วมกันที่อยากจะแก้ปัญหาประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า แสดงว่า รัฐบาลตั้งธงที่จะแจกเงินดิจิทัล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ธง แต่เป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ไม่ใช่อำเภอใจ มีธงหมายความว่าอำเภอใจจะทำอย่างนี้อย่างนั้นก็ได้มันไม่ใช่ แต่นี่เป็นนโยบายที่คิดมาอย่างดีที่เสนอต่อพี่น้องประชาชน ได้รับการยอมรับจากประชาชนเอามาคุยกับพรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลและแถลงต่อรัฐสภาชัดเจน เมื่อนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาชัดเจนตนไม่ทำงวดหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านก็กางมาแล้วก็บอกว่าเรื่องนี้เรื่องนั้นไม่ทำ อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยในการช่วยกันมอง
เมื่อถามว่า ถ้าออก พ.ร.บ.กู้เงินไม่ได้รัฐบาลจะถอยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า ไม่มีถ้า ขอเจอความเป็นจริง ตอนนี้ยังไม่มีเรื่อง พ.ร.บ.เงินกู้หรือไม่เงินกู้ ขอความเป็นจริงตรงนี้ก่อน ตรงนี้ยังไม่ชัดเจนเลยแต่จะให้ตนไปคิดเรื่องอื่น ถ้าคิดไปอาจจะคิดฟรีก็ได้ รอให้ความจริงเกิดขึ้นก่อน หากความเห็น ป.ป.ช.มาถึงจะเปิดเผยหรือไม่นั้นอยู่ที่ว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารระดับไหน เมื่อถามว่าความเห็นของ ป.ป.ช.จะสร้างเงื่อนไขให้เป็นข้อจำกัดของรัฐบาลหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบต้องถาม ป.ป.ช. จะออกมาจริงหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แต่เราได้ยินว่าจะมีเราก็รอ แต่เรายังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการว่าให้รอก่อนเดี๋ยวจะส่งมา อันนั้นไม่มี เราทราบว่าจะมีจึงคิดว่าถ้ามีจริงก็จะรอได้อีก ไม่มีปัญหาที่จะขยับไปอีกอาทิตย์สองอาทิตย์ เดือนสองเดือน หากทุกอย่างพร้อมเราเดินได้ทันที เพราะทุกอย่างเตรียมการไว้หมดแล้ว
@ให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเป็นแนวหนึ่ง
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะดันไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย จะมาบอกว่าให้ดันไปถึงศาลรัฐธรรมนูญท่านคิดเอง ถ้าอยากให้ดันไปถึงศาลรัฐธรรมนูญตัดสินหรือเปล่านั่นเป็นแนวทางหนึ่ง ถ้าเป็นข้อเสนอจากท่าน ซึ่งเราพูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีธงที่จะเดิน เราดูตามความเป็นจริงแล้วว่าตามความเป็นจริง อย่าจินตนาการมาก ยิ่งจินตนาการมากพวกตนยิ่งเหนื่อย