เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'ธงชัย เพชรสกุลทอง' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด ประจวบคีรีขันธ์ นำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ในกิจการอันเป็นประโยชน์ส่วนตน ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษ จำคุก 20 ปี แต่ได้รอลงอาญา หลังเจ้าตัวสำนึกผิดรับสารภาพชดใช้ความเสียหาย -ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายธงชัย เพชรสกุลทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูดอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำรถยนต์ส่วนกลางของเทศบาลตำบลบ้านกรูด ไปใช้ในกิจการอันเป็นประโยชน์ส่วนตน ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาว่า นายธงชัย เพชรสกุลทอง จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ตามฟ้องข้อ 1 ถึงข้อ 5 และมีความผิดตามประมวลกฎหมาย มาตรา 151 ตามฟ้อง ข้อ 6 ถึงข้อ 8 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 สำหรับฟ้องข้อ 1 ถึงข้อ 5 ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท
สำหรับฟ้องข้อ 6 ถึง 8 ให้จำคุกกระทงละ 5 ปีและปรับกระทงละ 100,000 บาท รวมเป็นจำคุก 40 และปรับ 350,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
คงจำคุก กระทงละ 2 ปี 6 เดือน และปรับตามฟ้องข้อ 1 ถึงข้อ 5 กระทงละ 5,000 บาท กับปรับตามฟ้องข้อ 6 ถึงข้อ 8 กระทงละ 50,000
รวมจำคุก 20 ปี และปรับ 175,000 บาท
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า แม้จำเลยกระทำความผิดโดยอาศัยอำนาจหน้าที่ก่อความเสียหายแก่รัฐและเทศบาลตำบลบ้านกรูดก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาสภาพแห่งการกระทำความผิดของจำเลยมิใช่กรณีที่มีมูลเหตุจูงใจพิเศษต้องการนำรถยนต์กระบะส่วนกลางของเทศบาลตำบลบ้านกรุดเพื่อแสวงหาประโยชน์ของตนอย่างเป็นประจำในระหว่างที่ตนมีอำนาจหน้าที่ ประกอบกับไม่ปรากฏว่ามีมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากนัก
อีกทั้งจำเลยสำนึกผิดโดยรับสารภาพโดยความสมัครใจเองมาโดยตลอดและบรรเทาผลร้ายโดยการชดใช้เงินค่าเสียหายให้แก่เทศบาลตำบลบ้านกรูดจนครบถ้วน
เมื่อพิจารณาถึงจำเลยมีอายุมากแล้วและไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้โอกาสแก่จำเลยกลับตัวประพฤติตนเป็นพลเมืองดีสักครั้ง ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์แก่จำเลยและสังคมมากกว่าที่จะต้องต้องโทษจำคุก
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ให้คุมความประพฤติของจำเลยไว้มีกำหนด 3 ปี
ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง ตามเงื่อนไขและกำหนดระยะเวลาที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30
ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นควรที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลดังกล่าว ในประเด็นรอการลงโทษจำเลย
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- ยืนโทษ! คุก 5 ปี อดีตนายกอบต.ศาลาลอย เรียกรับเงินแลกพิจารณาตำแหน่ง
- ไม่รอลงอาญา! คุก 3 ปี 9 ด. นายกอบต.บางกอบัว ทุจริตซื้อวัสดุกำจัดลูกน้ำยุงลาย
- คดีที่ 5! ยืนโทษ คุก 2 ปี 'นวพล บุญญามณี' ทุจริตจ้างสำรวจออกแบบถนนลาดยาง
- โทษหนัก! คุก 38 ปี 114 ด. อดีตนายก อบต.ภูน้ำหยด เบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพมิชอบ
- ไม่รอลงอาญา! คุก 3 ปี 4 ด.'รศ.' คณบดีฯ คหกรรมศาสตร์ มทร.กรุงเทพ ทุจริตโครงการความรู้
- ไม่รอลงอาญา! คุก 4 ปี 8 ด. อดีตผอ.กศน.จอมบึง ทุจริตโครงการศูนย์ฝึกอาชีพ