เผยมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวหา 'กรพจน์ อัศวินวิจิตร' อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสินกับพวก 9 ราย ช่วยเหลือเอกชนรับงานโครงการปรับปรุงสำนักธุรกิจการเงินส่วนบุคคล สำนักงานใหญ่ โดยมิชอบ หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงพยานหลักฐานฟังได้ว่ากระทำความผิด ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ขณะที่พวกบางส่วน โดนทำหนังสือตักเตือน-ลงโทษตัดเงินเดือนไปแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 ตีตกข้อกล่าวหา นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กับพวก จำนวน 9 ราย กรณีช่วยเหลือบริษัท เอสตีม เดคคอร์ จำกัด ให้เป็นผู้ได้รับงานในโครงการปรับปรุงสำนักธุรกิจการเงินส่วนบุคคล (ส่วนทำงาน) ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ โดยมิชอบ
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ส่วนผู้ถูกกล่าวหาบางส่วน มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ แบบแผน ข้อบังคับ หรือคำสั่งของธนาคารที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด ตามระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 353 ว่าด้วยวินัยของพนักงานธนาคารออมสิน ข้อ 6 วรรคหนึ่ง ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้มีหนังสือตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และมีคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือนไปแล้ว จึงไม่มีกรณีที่จะต้องส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยอีก
สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า โครงการปรับปรุงสำนักธุรกิจการเงินส่วนบุคคล (ส่วนทำงาน) อาคาร 1 ชั้น 2 ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ มีผู้รับจ้างเข้าเสนอราคา จำนวน 2 ราย คือ บริษัท เอสตีม เดคคอร์ จำกัด เสนอราคาเป็นเงินจำนวน 1,363,252.49 บาท และ บริษัท ดับบลิว อี เอส จำกัด เสนอราคาเป็นเงินจำนวน 938,925 บาท
แต่ในการเชิญบริษัทผู้รับจ้างมาต่อรองราคาครั้งที่ 2 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 ประธานกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ และผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 กรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ เรียกบริษัท เอสตีม เดคคอร์ จำกัด ซึ่งเสนอราคาสูงกว่าเพียงบริษัทเดียวไปต่อรองราคาลงเหลือเท่ากับราคากลาง คือ 799,300 บาท ซึ่งในการต่อรองราคาครั้งดังกล่าวปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการทรัพย์สิน ได้สั่งการหรือเข้าร่วมต่อรองราคากับบริษัท เอสตีม เดคคอร์ จำกัด ทั้งที่ไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ และไม่มีการเรียกบริษัท ดับบลิว อี เอส จำกัด ไปต่อรองราคา ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ทราบอยู่แล้วว่าผู้รับจ้างเข้าไปทำงานในพื้นที่ของธนาคารออมสินก่อนการอนุมัติจัดจ้างโดยการสั่งการของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 อีกทั้งในการจัดทำบันทึกเสนอขออนุมัติจ้าง บริษัท เอสตีม เดคคอร์ จำกัด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 ไม่มีเงื่อนไขให้ผู้รับจ้างต้องรับซื้อเครื่องปรับอากาศของเดิมของธนาคารออมสิน เป็นเงิน 28,000 บาท ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในบันทึกขอจัดตั้งงบประมาณ
ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ผู้อำนวยการธนาคารออมสินได้สั่งการด้วยวาจาให้มีการแก้ไขแบบแปลนสำนักธุรกิจการเงินส่วนบุคคล (ส่วนทำงาน) โดยมีผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เป็นผู้จัดทำบันทึกขออนุมัติเปลี่ยนแปลงแบบและขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อให้ธนาคารดำเนินการรับมอบผลงานที่แล้วเสร็จและให้ผู้รับจ้างได้รับเงินตามสัญญาได้ ต่อผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ได้สั่งการให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ถึงผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 คณะกรรมการตรวจการจ้าง ตรวจรับงานจ้างที่บริษัทฯ ดำเนินการแล้วเสร็จซึ่งไม่ตรงกับแบบแปลนที่ได้รับอนุมัติจากธนาคารก่อน และผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ในฐานะผู้ควบคุมงานจะต้องทราบอยู่แล้วว่าผู้รับจ้างเข้าทำงานในพื้นที่ก่อนมีหนังสือส่งมอบพื้นที่ในวันที่ 23 กันยายน 2548 แต่กลับไม่จัดทำบันทึกและรายงานประจำวันเสนอต่อคณะกรรมการตรวจการจ้างพิจารณา
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า คณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นพิจารณาจากคำกล่าวหาแล้วเห็นว่า ในการดำเนินการปรับปรุงสำนักธุรกิจการเงินส่วนบุคคล (ส่วนทำงาน) ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ธนาคารออมสินมีนโยบายให้ธนาคารสามารถให้บริการธนาคารส่วนบุคคล (Private Banking Service) ให้แล้วเสร็จตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2548 และเมื่อล่วงเลยระยะเวลาดังกล่าวมาแล้ว จึงมีความจำเป็นต้องเร่งรัดดำเนินการปรับปรุงสำนักธุรกิจการเงินส่วนบุคคล (ส่วนทำงาน) เพื่อให้แล้วเสร็จและใช้ประโยชน์ได้ตามนโยบายการจัดตั้งและเปิดให้บริการสำนักธุรกิจการเงินส่วนบุคคล ประกอบกับการดำเนินการปรับปรุงสำนักดังกล่าวมีมูลค่างานทั้งสิ้นรวมเป็นเงินจำนวนเพียง 1,110,000 บาท สูงกว่าราคากลางจำนวน 59,112 บาท ซึ่งสูงกว่าราคากลางร้อยละ 5.62 เนื่องจากการปรับปรุงสำนักธุรกิจการเงินส่วนบุคคล (ส่วนทำงาน) ใช้วัสดุที่มีคุณภาพมากกว่าปกติและเป็นกรณีงานเร่งด่วนที่จะต้องทำงานล่วงเวลาหรือให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ค่าแรงงานหรือค่าจัดจ้างจึงต้องสูงกว่าปกติซึ่งแตกต่างจากราคาพัสดุที่กรมบัญชีกลางกำหนดหรือค่าแรงงานทั่วไป และธนาคารออมสินได้ใช้ประโยชน์จากการปรับปรุงสำนักธุรกิจการเงินส่วนบุคคลได้ตามนโยบายที่กำหนดและสมประโยชน์ตามความมุ่งหมายของธนาคาร ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อธนาคาร และการจัดจ้างเพื่อให้ได้ บริษัท เอสตีม เดคคอร์ จำกัด เป็นคู่สัญญา เป็นไปตามระเบียบธนาคารออมสิน ฉบับที่ 404 ว่าด้วยการพัสดุ แล้ว แต่ผลจากการเร่งรัดดังกล่าวเป็นเหตุให้ นางสาวนงเยาว์ พาชีรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นายธงชัย สุมา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นายบุญยโชติ รอดทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 นายปรีชา สระมาลา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 และนายวรุฒ ประสารแก้ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 จัดทำเอกสารการจัดจ้างย้อนหลัง อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยผิดระเบียบขั้นตอน ไม่เป็นไปตามระเบียบธนาคารออมสิน ฉบับที่ 404 ว่าด้วยการพัสดุจึงเห็นว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 3, 4, 7, 8 และ 9 มีมูลเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ตามระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 353 ว่าด้วยวินัยของพนักงานธนาคารออมสิน ข้อ 6 วรรคหนึ่ง ฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ แบบแผน ข้อบังคับ หรือคำสั่งของธนาคารที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด ซึ่งหน่วยงาน
ก็ได้ดำเนินการทางวินัยกับบุคคลดังกล่าวตามสมควรแก่กรณีแล้ว
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 51/2563 วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นายธีระ วิทวุฒิศักดิ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายปรีชา สระมาลา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8และนายวรุฒ ประสารแก้ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ส่วน นางสาวนงเยาว์ พาชีรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นายธงชัย สุมา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นายนวพงศ์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นายวีรทัศ วัชโรทัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 และนายบุญยโชติ รอดทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 จากการไต่สวนข้อเท็จจริงไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำการอันมีมูลความผิดอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาในทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
แต่การกระทำของนางสาวนงเยาว์ พาชีรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นายธงชัย สุมา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นายนวพงศ์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นายวีรทัศ วัชโรทัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 และนายบุญยโชติ รอดทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ แบบแผน ข้อบังคับ หรือคำสั่งของธนาคารที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด ตามระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 353 ว่าด้วยวินัยของพนักงานธนาคารออมสิน ข้อ 6 วรรคหนึ่ง ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้มีหนังสือตักเตือน นางสาวนงเยาว์ พาชีรัตน์ นายนวพงศ์ นพวงศ์ ณ อยุธยา นายวีรทัศ วัชโรทัย และนายบุญยโชติ รอดทอง เป็นลายลักษณ์อักษร และมีคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือน นายธงชัย สุมา ในการกระทำความผิดนี้เหมาะสมแล้ว
จึงไม่มีกรณีที่จะต้องส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยอีก ให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ทั้งนี้ ให้แจ้งข้อสังเกตไปยังธนาคารออมสินด้วยว่า ในการแก้ไขแบบแปลนจะต้องได้รับอนุมัติให้แก้ไขสัญญาก่อน จึงจะดำเนินการแก้ไขแบบแปลนได้