แพร่ประกาศ ปปง. ให้ผู้เสียหายยื่นขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน คดี‘ชนินทร์ เย็นสุดใจ’กับพวก ปกปิดข้อมูล ตกแต่งบัญชี บมจ. สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น หลังคกก.ธุรกรรมสั่งยึดอายัดทรัพย์สิน 16 รายการ 349 ล.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 พ.ย.2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่องให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน ราย นายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก ระบุว่า
ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 11/2566 วันที่ 16 พ.ย. 2566 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับแต่ที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ราย นายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก กล่าวคือ
บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ได้มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง ในบัญชีหรือเอกสารของบริษัท ในปี 2564 ถึงปี 2565 และเปิดเผยข้อความอันเป็นเท็จในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวน (“แบบแสดงรายการข้อมูล”) โดยเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2564 ที่มีการตกแต่งบัญชีและปกปิดความจริงซึ่งควรบอกในแบบแสดงข้อมูลในส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของตราสาร (Factsheet) โดยการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำโดยทุจริตหลอกลวง และโดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สิน จากผู้ถูกหลอกลวงดังนี้ บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีการยื่นคำขออนุญาตและแบบแสดงรายการข้อมูล และร่างหนังสือชี้ชวน (แบบ Filing) โดยอาศัยข้อเท็จจริงที่มีการตกแต่งบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้องบริษัทฯ อันเป็นข้อความเท็จ รวมถึงปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเสนอขายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ เป็นเหตุให้ผู้ลงทุนดังกล่าวได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ดูประกาศในลิงก์ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/12935.pdf
วันเดียวกัน นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 11/2566 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รายคดี นายชนินทร์ฯ กับพวก (กรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)) ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและความผิดเกี่ยวกับการยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ไว้ชั่วคราว จำนวน 16 รายการ (เงินสด เงินในบัญชีเงินฝาก หลักทรัพย์ และสินทรัพย์ดิจิทัล) พร้อมดอกผล รวมมูลค่าประมาณ 349 ล้านบาท มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ นั้นสำนักงาน ปปง. เปิดรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจากการกระทำความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 ในรายคดีดังกล่าว ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 โดยผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหายและจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ 2 ช่องทางดังนี้
- ยื่นด้วยตนเอง ณ สำนักงาน ปปง. โดยผู้เสียหายต้องนำแบบคำร้องฯ ที่กรอกข้อมูลครบถ้วนและแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องทุกฉบับมาด้วย
- ยื่นทางไปรษณีย์ลงทะเบียน โดยจ่าหน้าซองมาที่ สำนักงาน ปปง. เลขที่ 422 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โดยวงเล็บมุมซองด้านบนว่า (ส่งแบบคำร้องขอคุ้มครองสิทธิคดีรายนายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก)
ผู้เสียหายสามารถลงทะเบียนนัดหมายและกรอกข้อมูลผ่านระบบคุ้มครองสิทธิฯ (https://khumkrongsit.amlo.go.th) เพื่อยื่นเอกสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือนำส่งเอกสารทางไปรษณีย์ลงทะเบียน รวมทั้งดาวน์โหลดแบบคำร้องและเอกสารที่เกี่ยวข้องที่ได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ปปง. (www.amlo.go.th)
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของสำนักงาน ปปง. ได้ที่เว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ของสำนักงาน ปปง. หากมีข้อสงสัยสอบถามสายด่วน ปปง. (วันและเวลาราชการ)