ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ ตีตกข้อกล่าวหา 'หนึ่ง พลขััณฑ์' อดีตนายก อบต.บึงบัว อำเภอวชิรบารมี พิจิตร กรณีไม่ดำเนินการแต่งตั้ง คกก.สอบสวนวินัยเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินตอบแทนจ่ายโบนัส ปี 2555 โดยมิชอบ เหตุข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิด ข้อกล่าวหาไม่มีมูล
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา นายหนึ่ง พลขััณฑ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บึงบัว อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ไม่ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการเรียกรับเงินหรือรับทรัพย์สินในการจ่ายโบนัส เมื่อปี พ.ศ.2555 โดยมิชอบ
หลังพิจารณาผลการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุ พฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า ที่ว่าการอำเภอวชิรบารมี หนังสือ ที่ พจ 0037.14/021 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 ถึงองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร โดยให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว (ในขณะนั้น คือ นายหนึ่ง พลขัณฑ์ ผู้ถูกกล่าวหา) ดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 7 ราย ได้แก่ 1. นางสาวนงเยาว์ ชินบุตร หัวหน้าส่วนการคลัง 2. นางสาวสุรินทร์นา ยายอด นักวิชาการการเงินและบัญชี 3. นางสาวดารัตน์ เอี่ยมพัง เจ้าหน้าที่พัสดุ 4. นางสาวกาญจนา สุปิน เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 5. นายวิชา ทองชีวงศ์ เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 6. นางโณลี แตงอ่อน ผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองขาว 7. นางศุภวรรณ วนะชีวิน ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ธุรการ ตามที่ระบุไว้ในหนังสือฉบับที่ พจ 0037.14/021 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554
แต่นายหนึ่ง พลขัณฑ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว มิได้ดำเนินการตามหนังสือที่ว่าการอำเภอวชิรบารมีฉบับดังกล่าว อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ราชการเสียหาย
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ทางไต่สวนคณะไต่สวนดำเนินการแล้วปรากฏข้อเท็จจริงว่าที่ว่าการอำเภอวชิรบารมี มีหนังสือ ที่ พจ 0037.14/021 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 ถึงองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว โดยให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัวดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 7 ราย ได้แก่ 1. นางสาวนงเยาว์ ชินบุตร หัวหน้าส่วนการคลัง 2. นางสาวสุรินทร์นา ยายอด นักวิชาการการเงินและบัญชี 3. นางสาวดารัตน์ เอี่ยมพัง เจ้าหน้าที่พัสดุ 4. นางสาวกาญจนา สุปินเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 5. นายวิชา ทองชีวงศ์ เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 6. นางโณลี แตงอ่อน ผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองขาว 7. นางศุภวรรณ วนะชีวิน ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ธุรการ ตามที่ระบุไว้ในหนังสือฉบับดังกล่าว
อันเป็นการสืบเนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของอำเภอวชิรบารมีได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีหนังสือร้องเรียนนางสาวกิตติพร เกษม ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว เกี่ยวกับการเรียกรับเงินหรือทรัพย์สินในการจ่ายโบนัส (สมัยที่นายหลาบ ไกรแก้ว ดำรงตำแหน่งนายก อบต.บึงบึว)
จากนั้นองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว เมื่อได้รับหนังสือดังกล่าวได้มีหนังสือ ลับ ที่ พจ 75101/031 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2554 รายงานให้อำเภอวชิรบารมีทราบว่าได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ นางสาวกิตติพร เกษม ในกรณีดังกล่าว และได้มีคำสั่งองค์การบริหาร ส่วนตำบลบึงบัว ที่ 679/2554 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2554 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย อย่างร้ายแรง
ต่อมานางสาวกิตติพรฯ ได้คัดค้านผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน คำสั่งที่ 679/2554 เนื่องจากองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว (นายหนึ่ง พลขันฑ์) ผู้ทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวเป็นคู่กรณีกับนางสาวกิตติพรฯ เพราะนางสาวกิตติพรฯ ได้ใช้สิทธิยื่นฟ้องนายหนึ่งฯ ที่ศาลปกครอง เป็นคดีหมายเลขดำที่ 235/2553 และคดีที่เลขดำที่ 36/2554 องค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัวจึงได้มีคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว ที่ 345/2555 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2555 เรื่อง แก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง
เมื่อการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการ คณะกรรมการสอบสวนมีการโยกย้ายจึงได้มีการปรับเปลี่ยนคำสั่งปรากฏตามคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว ที่ 398/2555 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 เรื่อง แก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และตามคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว ที่ 343/2559 ลงวันที่ 21 เมษายน 2559 เรื่อง แก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง (เอกสารแนบ อ 7) ซึ่งการที่ที่ว่าการอำเภอวชิรบารมีมีหนังสือ ที่ พจ 0037.14/021 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 ถึงองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว เป็นการอาศัยอำนาจ ตามมาตรา 90 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบล พ.ศ. 2537 และจากคำสั่งที่ 679/2554 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2554
ปรากฏใจความว่า "ข้อ 2 โดยสรุปว่า ให้สอบสวนวินัยนางสาวกิตติพร เกษม และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในมูลกรณี เรียกรับเงิน ทรัพย์สินในการจ่ายเงินโบนัส สมัยนายหลาบ ไกรแก้ว ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว โดยมิได้ว่ากล่าวในประเด็นอื่นๆ ที่ปรากฏในการดำเนินการขององค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัวที่สอบข้อเท็จจริงไว้ องค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัวต้องถือปฏิบัติตามที่แจ้ง"
การที่คำสั่งดังกล่าวไม่มีการระบุชื่อบุคคลทั้ง 7 รายนั้น เนื่องจากตามคำสั่งมีการตั้งคณะกรรมการการสอบสวนนางสาวกิตติพร เกษม หลายประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเรื่องเรียกรับเงินหรือรับทรัพย์สินในการจ่ายเงินโบนัส สมัยนายหลาบ ไกรแก้ว ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว โดยมิชอบ
แต่ตามข้อ 2 ในคำสั่งดังกล่าวได้ระบุแล้วว่าให้สอบสวนวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกรณี เรียกรับเงิน ทรัพย์สินในการจ่ายเงินโบนัส สมัยนายหลาบ ไกรแก้ว ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว
นายหนึ่ง พลขันฑ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร เข้าดำรงตำแหน่งในวันที่ 24 สิงหาคม 2551 ตามทะเบียนผู้ได้รับประกาศผลการเลือกตั้ง ตามแบบ ถ.ส.19 ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2555 และนางสาวกิตติพร เกษม ตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบัว ได้ลาออกซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2561 ตามหนังสือ ที่ พจ 7510/646 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 103/2566 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 พิจารณาแล้ว มีมติเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า นายหนึ่ง พลขัณฑ์ ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป